รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้
ความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา ณัฐติยา เหล่าโสภา
ปีที่ศึกษา 1/2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อใช้และศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยศึกษาผลดังนี้ (2.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนกับหลังการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (2.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ร้อยละ 70 (2.3) เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนกับหลังการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (2.4) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ร้อยละ 70
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้นมีชื่อว่า PACPRAA Model มีกระบวนการเรียนรู้ ดังนี้ 1) ขั้นเตรียมความพร้อม (Preparation: P) 2) ขั้นการวิเคราะห์ (Analysis: A) 3) ขั้นสร้างชิ้นงาน (Creation: C) 4) ขั้นนำเสนอผลงาน (Presentation: P) 5) ขั้นสะท้อนความคิด (Reflection: R) 6) ขั้นเรียบเรียงเรื่องใหม่ (Arrangement: A) 7) ขั้นประเมินผล (Assessment: A) ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบการเรียนการสอน ที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.62, S.D. = 0.32) และมีค่าดัชนีประสิทธิผลร้อยละ 73.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำร้อยละ 70
2. ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น พบว่า 1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 3) นักเรียนมีพัฒนาการทักษะการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทยหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้ด้วยการเสริมศักยภาพที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในทุกประเด็นของการประเมิน และนักเรียนมีทักษะการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 4) นักเรียนมีทักษะการอ่านเพื่อการสื่อสารภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01