รายงานผลการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2
ผู้รายงาน นางฐาณิญา คำศรีโสด
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนนครนนท์วิทยา๕ ทานสัมฤทธิ์
สำนักการศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
ปีที่พิมพ์ 2558
บทคัดย่อ
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทำการศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนนครนนท์วิทยา๕ ทานสัมฤทธิ์ สำนักการศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย หนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน 6 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้หนังสืออ่านเพิ่มเติม แบบทดสอบท้ายก่อนเรียนหลังเรียนหนังสืออ่านเพิ่มเติม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนหลังเรียน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยเลือกตอบชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ จำนวน 16 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent samples) ผลการศึกษาปรากฏผล ดังนี้
1. ประสิทธิภาพหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.52/83.33
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ดัชนีประสิทธิผลหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่า 0.50 ขึ้นไป คือ เรื่องที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.8071 เรื่องที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7901 เรื่องที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7885 เรื่องที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7808 เรื่องที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7757 และเรื่องที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.7812
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ มีคะแนนเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 2.67 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.87
จากผลการศึกษาแสดงว่า หนังสืออ่านเพิ่มเติมที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้เรียนมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสติปัญญา และพฤติกรรมคุณธรรม จริยธรรมได้อย่างแน่นอน เพราะหนังสือจะเป็นสิ่งเร้าใจที่มีประสิทธิภาพ สร้างความเพลิดเพลินสนุกสนานในการเรียนได้อีกด้วย
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2
ผู้รายงาน นางฐาณิญา คำศรีโสด
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนนครนนท์วิทยา๕ ทานสัมฤทธิ์
สำนักการศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
ปีที่พิมพ์ 2558
บทคัดย่อ
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทำการศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนนครนนท์วิทยา๕ ทานสัมฤทธิ์ สำนักการศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย หนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน 6 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้หนังสืออ่านเพิ่มเติม แบบทดสอบท้ายก่อนเรียนหลังเรียนหนังสืออ่านเพิ่มเติม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนหลังเรียน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยเลือกตอบชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ จำนวน 16 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent samples) ผลการศึกษาปรากฏผล ดังนี้
1. ประสิทธิภาพหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.52/83.33
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ดัชนีประสิทธิผลหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่า 0.50 ขึ้นไป คือ เรื่องที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.8071 เรื่องที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7901 เรื่องที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7885 เรื่องที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7808 เรื่องที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7757 และเรื่องที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.7812
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ มีคะแนนเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 2.67 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.87
จากผลการศึกษาแสดงว่า หนังสืออ่านเพิ่มเติมที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้เรียนมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสติปัญญา และพฤติกรรมคุณธรรม จริยธรรมได้อย่างแน่นอน เพราะหนังสือจะเป็นสิ่งเร้าใจที่มีประสิทธิภาพ สร้างความเพลิดเพลินสนุกสนานในการเรียนได้อีกด้วย