การพัฒนาหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน นางสุพรรณิการ์ มะสาเม็ง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านเกาะจัน
ปีที่พิมพ์ 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อพัฒนาหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะจันสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เรื่อง 2) แผนจัดการเรียนรู้ใช้เวลาแผนละ 2 ชั่วโมง จำนวน 8 แผน 3) แบบทดสอบย่อยหลังเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก เรื่องละ 5 ข้อ รวม 40 ข้อ 4) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากง่ายระหว่าง .47 - .77 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .27 - .60
ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.902 5) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ตามวิธีของลิเคิร์ท (Likert) ชนิด 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัย พบว่า
1. หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.98 /85.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7550แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.50
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 อยู่ในระดับมากที่สุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน นางสุพรรณิการ์ มะสาเม็ง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านเกาะจัน
ปีที่พิมพ์ 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อพัฒนาหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะจันสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เรื่อง 2) แผนจัดการเรียนรู้ใช้เวลาแผนละ 2 ชั่วโมง จำนวน 8 แผน 3) แบบทดสอบย่อยหลังเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก เรื่องละ 5 ข้อ รวม 40 ข้อ 4) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากง่ายระหว่าง .47 - .77 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .27 - .60
ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.902 5) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อหนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ตามวิธีของลิเคิร์ท (Likert) ชนิด 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัย พบว่า
1. หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.98 /85.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7550แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.50
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือนิทานอีสปประกอบแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 อยู่ในระดับมากที่สุด