บทคัดย่อ การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
วิชา วิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางตะวัน พันธ์ขาว
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนราษีไศล สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีการศึกษา 2558
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชา วิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชา วิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาโดย
วิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชา วิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.59 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.47 ถึง 0.67 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.91 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.64/82.83
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง แรง การเคลื่อนที่และพลังงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56