การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) โดยใช้ชุด....
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ ค23102 เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ผู้วิจัย นางสาวกัญญ์ญาณัฐฐ์ กุจะพันธ์
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพิเศษ
สังกัด โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2562
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) วิชาคณิตศาสตร์ ค23102 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพบริบท ความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) วิชาคณิตศาสตร์ ค23102 2) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่ใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) 3) เพื่อทดลองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) และ 4) เพื่อประเมินการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) วิชาคณิตศาสตร์ ค23102 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 42 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 64 คน รวม 111 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ดำเนินการวิจัยโดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาสภาพบริบทความต้องการจำเป็น ในการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ระยะที่ 2 เป็นการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น และระยะที่ 3 เป็นการทดลองใช้และประเมินชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ที่ใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
ผลการวิจัยพบว่า
1. โดยภาพรวมโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี มีความพร้อมของบริบทโรงเรียน ในการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) อยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นของนักเรียน โดยภาพรวม มีความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด
2. การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) วิชาคณิตศาสตร์ ค23102 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่สร้างขึ้น มีความเหมาะสมตามบริบทและความต้องการจำเป็นของโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี โดยผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่นำเอาชุดกิจกรรมการเรียนรู้มาใช้ในการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้ทดลองภาคสนาม โดยการนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนตระกาศ-ประชาสามัคคี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 32 คน พบว่า ประสิทธิภาพ ของกระบวนการของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (E1)เท่ากับ 78.75 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 77.08 และ เมื่อดำเนินการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียน โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ชี้ให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสม สามารถนำไปใช้ได้
3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ในการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะ หาความรู้ ทั้ง 8 แผนการจัดการเรียนรู้ และ 6 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน มีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนด้วยกัน มีทักษะกระบวนการกลุ่ม ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี และมีคะแนนการทดสอบย่อยหลังเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 100 ในทุกชุดกิจกรรมการเรียนรู้
4. ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้ พิจารณาจากผลต่างคะแนนระหว่างผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน และความพึงพอใจของนักเรียน ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 นอกจากนี้ ผลการสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเอง จากการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ทั้ง 6 กลุ่ม โดยภาพรวม มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่ม พบว่า มีจำนวน 3 กลุ่ม จาก 6 กลุ่ม ที่มีความเหมาะสมในการเรียนรู้ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) อยู่ในระดับมากที่สุด โดยกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ กลุ่มที่ 3 และ กลุ่มที่ 6 ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาเป็นรายชุด พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 นักเรียนสามารถ สืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสมที่สุด และนักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) วิชาคณิตศาสตร์ ค23102 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก