การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model)
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการสอนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะ
การอ่าน (ISFAHANE Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางอิสฟาฮานี ศรีตุลาการ
ปีการศึกษา 2561
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี 3) เพื่อเพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยในลักษณะของงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน (The Embedded Design) ด้วยวิธีการเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) เสริมด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ชั้นเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) มาจำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 26 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ ค่าร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดประเมินผล และ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ มีขั้นตอนการสอน 9 ขั้นคือ ขั้นที่ 1 ชักจูง (I : Induce) ขั้นที่ 2 เริ่มต้น (S : Start) ขั้นที่ 3 เข้าใจ (F : Fathom) ขั้นที่ 4 อธิบาย (A : Annotate) ขั้นที่ 5 ช่วยเหลือ (H : Help) ขั้นที่ 6 ปฏิบัติ (A : Act) ขั้นที่ 7 แลกเปลี่ยน (N : Negotiate) ขั้นที่ 8 สรุป (E : Extract) ขั้นที่ 9 ขั้นประเมิน (Evaluation)
2. การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง
จ.ปัตตานี โดยการทดลองกับประชากรได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 86.83/88.83 และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01 และทักษะการอ่านในช่วงระหว่างเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พัฒนาขึ้นในช่วงระหว่างเรียน และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
3. การประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ
อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างหลังการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01 และทักษะการอ่านในช่วงระหว่างเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พัฒนาขึ้นในช่วงระหว่างเรียน และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
การอ่าน (ISFAHANE Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางอิสฟาฮานี ศรีตุลาการ
ปีการศึกษา 2561
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี 3) เพื่อเพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยในลักษณะของงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน (The Embedded Design) ด้วยวิธีการเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) เสริมด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ชั้นเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) มาจำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 26 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ ค่าร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดประเมินผล และ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ มีขั้นตอนการสอน 9 ขั้นคือ ขั้นที่ 1 ชักจูง (I : Induce) ขั้นที่ 2 เริ่มต้น (S : Start) ขั้นที่ 3 เข้าใจ (F : Fathom) ขั้นที่ 4 อธิบาย (A : Annotate) ขั้นที่ 5 ช่วยเหลือ (H : Help) ขั้นที่ 6 ปฏิบัติ (A : Act) ขั้นที่ 7 แลกเปลี่ยน (N : Negotiate) ขั้นที่ 8 สรุป (E : Extract) ขั้นที่ 9 ขั้นประเมิน (Evaluation)
2. การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง
จ.ปัตตานี โดยการทดลองกับประชากรได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 86.83/88.83 และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01 และทักษะการอ่านในช่วงระหว่างเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พัฒนาขึ้นในช่วงระหว่างเรียน และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
3. การประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ
อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างหลังการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01 และทักษะการอ่านในช่วงระหว่างเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ISFAHANEE Model) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี พัฒนาขึ้นในช่วงระหว่างเรียน และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด