ละ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ
B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวรุ่งนภา พิมพ์นาค
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการการเรียนรู้และความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในด้าน 3.1) หาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 3.2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา จำนวน 1 ห้อง นักเรียนจำนวน 43 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วยสถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการการเรียนรู้และความสามารถในการ
ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า กระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบัน เน้นไวยากรณ์ทางภาษาเป็นหลัก ทั้งนี้เพราะนักเรียนต้องนําความรู้ไปใช้ในการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การสอบระดับชาติ (O-NET) และการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ไม่ได่มุ่งเน้นทางด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ เน้นการท่องคําศัพท์ บรรยากาศในการเรียน การสอนเคร่งเครียด มีแบบฝึกหัดจํานวนมาก มีสื่อการเรียนการสอน ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เป็นบัตรคํา ครูผูู้สอน ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่เป็นครูผู้สอนชาวไทยใช้ภาษาไทยในการอธิบายหรือสื่อสารมากกว่าใช้ภาษาอังกฤษ นักเรียนไม้ได้ใช ห้รือใช้ภาษาอังกฤษน้อยมากในการ ฝึกทักษะการสื่อสารในชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ เมื่ออยู่นอกห้องเรียนก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารในชีวิตประจําวัน โรงเรียนมีกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนค่อนข้างน้อย
2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ แนวคิด ทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน โดยมีขั้นตอนการสอน 8 ขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์เดิม ขั้นที่ 3 ขั้นนำเสนอความรู้ใหม่ ขั้นที่ 4 ขั้นอภิปรายกลุ่ม ขั้นที่ 5 ขั้นฝึกทักษะ ขั้นที่ 6 ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ ขั้นที่ 7 ขั้นประเมินผลและ ขั้นที่ 8 สรุปขั้นประยุกต์ใช้
3. ผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 3.1) ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 82.03/82.40 3.2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
Title The development of an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students
Author Miss Rungnapa Pimnak
Academic Year 2019
Abstract
The purposes of this study were to 1) study current conditions and teaching
problems of English communication skills of Prathomsuksa 6 students 2) develop an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students 3) find out the results of an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students
3.1) find out the efficiency of instructional model of Davies' practical skill on task creation with Microsoft Word 2013 to develop creative an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students to meet the criteria of 80/80 3.2) compare English communication skills of Prathomsuksa 6 students before and after creative an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills 3.3) to study the students’ satisfaction toward learning with creative an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students. The sample of the study consisted of 43 students in Prathomsuksa 6/3 Bansrimaharacha Municipal School. The instruments used included 1) the English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students 2) lesson plans with an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students 3) English communication skills test 4) satisfaction questionnaire. The data were analyzed by using mean, percentage, standard deviation and t-test (Dependent Samples).
The results of the study were as follow :
1. The result of study current conditions and teaching
problems of English communication skills of Prathomsuksa 6 students found that found that at present, English language teaching and learning focuses on grammar and vocabulary memorizing. This is because students must apply their knowledge to take the achievement test, Ordinary National Educational Test (O-NET) or higher education entrance examinations. Most English teachers are Thai teachers not native English teacher. Most of them speak Thai in class. Students speak very little English to communicate in English class. When outside the classroom, they do not speak English to communicate in their daily lives. The school has a few activities that enhance communication skills in listening and speaking English.
2. The result of the development of an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students found that there were elements as follow : 1. principles, concepts and theories 2. objectives of model 3. teaching-learning procedures 4. social system 5. responsive principle and 6) supportive system. Teaching procedures were divided into 5 steps as follow : step 1 : Preparation , step 2 : Sharing Experience, step 3 : Presentation, step 4 : Discussion, step 5 : Practice, step 6 : Checking and Test, step 7 : Evaluation and conclusion, step 8 : Application
3. The result of using an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students found that 3.1) the efficiency of i an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students was 82.03/82.40 3.2) Prathomsuksa 6 students' English communication skills after using an English language instructional model was significantly higher than before using an English language instructional model at the .05 level. 3.3) Satisfaction of the students toward an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills was satisfied at a high level.
B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวรุ่งนภา พิมพ์นาค
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการการเรียนรู้และความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในด้าน 3.1) หาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 3.2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา จำนวน 1 ห้อง นักเรียนจำนวน 43 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วยสถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการการเรียนรู้และความสามารถในการ
ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า กระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบัน เน้นไวยากรณ์ทางภาษาเป็นหลัก ทั้งนี้เพราะนักเรียนต้องนําความรู้ไปใช้ในการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การสอบระดับชาติ (O-NET) และการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ไม่ได่มุ่งเน้นทางด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ เน้นการท่องคําศัพท์ บรรยากาศในการเรียน การสอนเคร่งเครียด มีแบบฝึกหัดจํานวนมาก มีสื่อการเรียนการสอน ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เป็นบัตรคํา ครูผูู้สอน ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่เป็นครูผู้สอนชาวไทยใช้ภาษาไทยในการอธิบายหรือสื่อสารมากกว่าใช้ภาษาอังกฤษ นักเรียนไม้ได้ใช ห้รือใช้ภาษาอังกฤษน้อยมากในการ ฝึกทักษะการสื่อสารในชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ เมื่ออยู่นอกห้องเรียนก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารในชีวิตประจําวัน โรงเรียนมีกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนค่อนข้างน้อย
2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ แนวคิด ทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน โดยมีขั้นตอนการสอน 8 ขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์เดิม ขั้นที่ 3 ขั้นนำเสนอความรู้ใหม่ ขั้นที่ 4 ขั้นอภิปรายกลุ่ม ขั้นที่ 5 ขั้นฝึกทักษะ ขั้นที่ 6 ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ ขั้นที่ 7 ขั้นประเมินผลและ ขั้นที่ 8 สรุปขั้นประยุกต์ใช้
3. ผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 3.1) ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 82.03/82.40 3.2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
Title The development of an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students
Author Miss Rungnapa Pimnak
Academic Year 2019
Abstract
The purposes of this study were to 1) study current conditions and teaching
problems of English communication skills of Prathomsuksa 6 students 2) develop an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students 3) find out the results of an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students
3.1) find out the efficiency of instructional model of Davies' practical skill on task creation with Microsoft Word 2013 to develop creative an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students to meet the criteria of 80/80 3.2) compare English communication skills of Prathomsuksa 6 students before and after creative an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills 3.3) to study the students’ satisfaction toward learning with creative an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students. The sample of the study consisted of 43 students in Prathomsuksa 6/3 Bansrimaharacha Municipal School. The instruments used included 1) the English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students 2) lesson plans with an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students 3) English communication skills test 4) satisfaction questionnaire. The data were analyzed by using mean, percentage, standard deviation and t-test (Dependent Samples).
The results of the study were as follow :
1. The result of study current conditions and teaching
problems of English communication skills of Prathomsuksa 6 students found that found that at present, English language teaching and learning focuses on grammar and vocabulary memorizing. This is because students must apply their knowledge to take the achievement test, Ordinary National Educational Test (O-NET) or higher education entrance examinations. Most English teachers are Thai teachers not native English teacher. Most of them speak Thai in class. Students speak very little English to communicate in English class. When outside the classroom, they do not speak English to communicate in their daily lives. The school has a few activities that enhance communication skills in listening and speaking English.
2. The result of the development of an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students found that there were elements as follow : 1. principles, concepts and theories 2. objectives of model 3. teaching-learning procedures 4. social system 5. responsive principle and 6) supportive system. Teaching procedures were divided into 5 steps as follow : step 1 : Preparation , step 2 : Sharing Experience, step 3 : Presentation, step 4 : Discussion, step 5 : Practice, step 6 : Checking and Test, step 7 : Evaluation and conclusion, step 8 : Application
3. The result of using an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students found that 3.1) the efficiency of i an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills of Prathomsuksa 6 students was 82.03/82.40 3.2) Prathomsuksa 6 students' English communication skills after using an English language instructional model was significantly higher than before using an English language instructional model at the .05 level. 3.3) Satisfaction of the students toward an English language instructional model by using cooperative learning and B-SLIM Model to improve English communication skills was satisfied at a high level.