นิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและระเบียบวินัยในตนเอง
ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริม
คุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัย
ช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง
ผู้ศึกษา นางดวงพร ศิริวงศ์
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1. เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน 2. เพื่อเปรียบเทียบคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง ก่อน และหลังการได้รับจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัย
ช่วงอายุ 3-4 ขวบ กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาค้นคว้า คือ เด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ปีการศึกษา 2561 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง สังกัดเทศบาลตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นเด็กปฐมวัย ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าปฏิบัติการสอนอยู่ และต้องการส่งเสริมพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยทั้ง 24 คน ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ซึ่ง ใช้นิทานทั้งหมด 12 เรื่อง ใช้เวลาระยะสัปดาห์ละ 2 เรื่อง วันละ 30 นาที รวมเป็นเวลาทั้งหมด 6 สัปดาห์ ในช่วง กิจกรรมเสริมประสบการณ์ในช่วงเวลา 09.00 –09.30 น. เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง จำนวน 12 แผน 12 เรื่อง ใช้เวลาประมาณ แผนละ 30 นาที และแบบสังเกตพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ แบ่งได้ 3 เรื่องดังนี้ 1. เรื่องปฏิบัติตามกฎกติกาข้อตกลงในการทำกิจกรรม 2. เรื่องเก็บของใช้ส่วนตัวและส่วนรวมเข้าที่เรียบร้อย 3. เรื่องมีน้ำใจและรู้จักแบ่งปัน การวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้ศึกษาค้นคว้าใช้การวิเคราะห์ข้อมูล และการหาคุณภาพด้วยวิธีทางสถิติ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทางสถิติที่ใช้ในการทดลองสมมติฐาน คือ ค่าแจกแจง t แบบ Dependent Samples
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. คะแนนพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง หลังการได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเอง เด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง สูงกว่าก่อนการได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านความ
มีระเบียบวินัยในตัวเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ
2. ผลการเปรียบเทียบระดับคะแนนพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง ผลปรากฏว่า เด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง มีพฤติกรรมด้านความมีระเบียบวินัยในตัวเองหลังได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน โดยภาพรวม พบว่า สูงกว่าก่อนทำได้รับหลังการได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองในช่วงอายุ 3-4 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
คุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัย
ช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง
ผู้ศึกษา นางดวงพร ศิริวงศ์
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1. เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน 2. เพื่อเปรียบเทียบคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง ก่อน และหลังการได้รับจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัย
ช่วงอายุ 3-4 ขวบ กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาค้นคว้า คือ เด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ปีการศึกษา 2561 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง สังกัดเทศบาลตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นเด็กปฐมวัย ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าปฏิบัติการสอนอยู่ และต้องการส่งเสริมพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยทั้ง 24 คน ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ซึ่ง ใช้นิทานทั้งหมด 12 เรื่อง ใช้เวลาระยะสัปดาห์ละ 2 เรื่อง วันละ 30 นาที รวมเป็นเวลาทั้งหมด 6 สัปดาห์ ในช่วง กิจกรรมเสริมประสบการณ์ในช่วงเวลา 09.00 –09.30 น. เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง จำนวน 12 แผน 12 เรื่อง ใช้เวลาประมาณ แผนละ 30 นาที และแบบสังเกตพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ แบ่งได้ 3 เรื่องดังนี้ 1. เรื่องปฏิบัติตามกฎกติกาข้อตกลงในการทำกิจกรรม 2. เรื่องเก็บของใช้ส่วนตัวและส่วนรวมเข้าที่เรียบร้อย 3. เรื่องมีน้ำใจและรู้จักแบ่งปัน การวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้ศึกษาค้นคว้าใช้การวิเคราะห์ข้อมูล และการหาคุณภาพด้วยวิธีทางสถิติ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทางสถิติที่ใช้ในการทดลองสมมติฐาน คือ ค่าแจกแจง t แบบ Dependent Samples
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. คะแนนพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง หลังการได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเอง เด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง สูงกว่าก่อนการได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านความ
มีระเบียบวินัยในตัวเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ
2. ผลการเปรียบเทียบระดับคะแนนพฤติกรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง ผลปรากฏว่า เด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนรัง มีพฤติกรรมด้านความมีระเบียบวินัยในตัวเองหลังได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน โดยภาพรวม พบว่า สูงกว่าก่อนทำได้รับหลังการได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเล่านิทานเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้านการมีน้ำใจและการมีระเบียบวินัยในตนเองในช่วงอายุ 3-4 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05