เผยแพร่ผลงานวิชาการ
ผู้รายงาน นางณิชชา มะลีจันทร์
โรงเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน สำหรับนักเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD 2) เพื่อพัฒนาแบบ ฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) เพื่อหาดัชนี ประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD และ 4)เพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ประชากร ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล บ้านสุขสำราญ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 72 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ จำนวน 35 คน ที่ได้มาโดยการการสุ่มตัวอย่าง แบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะทั้งหมด 5 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ รหัส วิชา ค23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 แผน มีค่าความเที่ยงตรงระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งใช้เป็นแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน มีค่าความเที่ยงตรงระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 ค่าความ ยากระหว่าง 0.20 ถึง 0.80 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.32 ถึง 0.82 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.98 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการโดย ใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.41 ถึง 0.88 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการศึกษา พบว่า 1. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ กำหนด 2. แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 76.69/81.71 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคSTAD แบบร่วมมือเทคนิคSTAD มีค่าเท่ากับ 0.0076 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 76.00 4. นักเรียนที่เรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มีความ พึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52
อ่านต่อได้ที่: https://www.kruwandee.com/index.php?module=forum-write