การพัฒนาแบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวศศิกานต์ จันทร์บุญ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีการศึกษา : 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL เรื่องพหุนาม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาพัฒนาการด้านความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 38 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) รูปแบบการวิจัยแบบ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 7 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จำนวน 7 แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา เป็นแบบเขียนตอบ จำนวน 10 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหา
ด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับจำนวน 20 ข้อ เวลาที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 22 คาบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คะแนนพัฒนาการและการทดสอบค่าที (t-test dependent)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 80.37/80.89 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. พัฒนาการด้านความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีพัฒนาการอยู่ในระดับสูง เฉลี่ยร้อยละ 67.87
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนิค KWDL หน่วยการเรียนรู้ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) พบว่าโดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.49, S.D. = 0.70) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดสองด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ 1) ด้านเนื้อหา และ 2) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากสองด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ และ 2) ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 8 ข้อ และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 12 ข้อ