LASTEST NEWS

03 ก.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 03 ก.ย. 2567สพฐ.ปรับโฉมการประชุม ผอ.สพท.ทุกคนต้องโชว์ผลงาน 03 ก.ย. 2567โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกประถมศึกษา หรือวิชาเอกภาษาไทย เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 5 ก.ย.2567 03 ก.ย. 2567ด่วน!!! สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดสอบตำรวจ 1,530 อัตรา รับสมัคร 12-20 ก.ย.2567 03 ก.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 02 ก.ย. 2567( ไม่มีวุฒิครูก็สมัครได้ ) เครือโรงเรียนมารีวิทย์ ประกาศรับสมัครครู 33 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 30 กันยายน 2567 02 ก.ย. 2567โรงเรียนห้างฉัตรวิทยา รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกพลศึกษา เงินเดือน 8,000 บาท ผ่านทดลองงาน 6 เดือน รับ 8,500 บาท สมัคร 2-13 ก.ย.2567 02 ก.ย. 2567โรงเรียนวัดแปลงเกต รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาอังกฤษหรือวิชาเอกทั่วไป เงินเดือน 15,800.- บาท ตั้งแต่วันที่ 16-20 กันยายน 2567 02 ก.ย. 2567สพม.ปราจีนบุรี นครนายก รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 6 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 6-12 กันยายน 2567 02 ก.ย. 2567​​​​​​​กรมพลศึกษา เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 16,500 - 19,120 บาท ตั้งแต่วันที่ 9-17 กันยายน 2567

การพัฒนาชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแ

usericon

ชื่อเรื่อง    การพัฒนาชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา
        เรื่อง วัสดุแรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย        นางสาวนิภาพร รักบำรุง
สถานศึกษา    โรงเรียนวัดขจรบำรุง อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปีที่ทำการวิจัย    ปีการศึกษา 2561

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ พัฒนาชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุแรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โดยหาประสิทธิภาพของชุดการสอนตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน – หลังเรียน เปรียบเทียบการคิดแก้ปัญหาก่อน – หลังเรียน เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อน – หลังเรียน และเปรียบเทียบเจตคติทางวิทยาศาสตร์ก่อน-หลังเรียน กลุ่มตัวอย่างศึกษาจากประชากร ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนวัดขจรบำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 จำนวน 16 คน การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลัง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดการคิดแก้ปัญหา แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และแบบวัดเจตคติทางวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม(E1/ E2) ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยโดยสรุปมีดังนี้
    1. ผลการสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนวัดขจรบำรุง ตามความคิดเห็นของครู มีดังนี้
1.1 ผลการสำรวจสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนวัดขจรบำรุง ตามความคิดเห็นของครู มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .22 ซึ่งสภาพปัญหาโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
1.2 ผลการสำรวจความต้องการจำเป็นพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนวัดขจรบำรุง ตามความคิดเห็นของครู มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .16 ซึ่งความต้องการจำเป็นพื้นฐานโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ชุดการสอนที่พัฒนาขึ้น ในภาพรวมมีความสอดคล้อง โดยมีค่า IOC เท่ากับ 0.95 และมีประสิทธิภาพ 85.18/83.02 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80)
3. ผลการตรวจสอบคุณภาพของชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นร่วมกับ การคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุ แรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีดังนี้
3.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อน-หลังเรียนด้วย ชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุ แรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3.2 ผลการเปรียบเทียบการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน ก่อน-หลังเรียนด้วยชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุ แรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3.3 ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ก่อน-หลังเรียนด้วยชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุ แรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3.4 ผลการเปรียบเทียบเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ก่อน-หลังเรียนด้วย ชุดการสอนโดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุ แรง ความดัน และเสียง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน


ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^