การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ม.2
วิจัยเรื่อง: การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ
ผู้วิจัย: นางสาวอามีหน๊ะ หมัดยูโส๊ะ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานที่ทำงาน: โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย: 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ 85/85 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 36 คน ใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยห้องเรียนที่มีความรู้สามารถคละกันเป็นหน่วยสุ่มด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในวิจัยมี 4 ชนิด คือ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 6 เรื่อง 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 17 แผน ๆ ละ 1 ชั่วโมง รวม 17 ชั่วโมง 3) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความแปรปรวน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่นแบบคูเดอร์- ริชาร์ดสัน 20 ตรวจสอบสมมุติฐานโดยใช้สถิติการทดสอบค่าที (t-test dependent)
ปรากฏผลการวิจัย ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 87.69/96.81 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 85/85
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมาก ( = 4.23, S.D= 0.72 )
สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ
ผู้วิจัย: นางสาวอามีหน๊ะ หมัดยูโส๊ะ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานที่ทำงาน: โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย: 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ 85/85 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 36 คน ใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยห้องเรียนที่มีความรู้สามารถคละกันเป็นหน่วยสุ่มด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในวิจัยมี 4 ชนิด คือ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 6 เรื่อง 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 17 แผน ๆ ละ 1 ชั่วโมง รวม 17 ชั่วโมง 3) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความแปรปรวน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่นแบบคูเดอร์- ริชาร์ดสัน 20 ตรวจสอบสมมุติฐานโดยใช้สถิติการทดสอบค่าที (t-test dependent)
ปรากฏผลการวิจัย ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 87.69/96.81 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 85/85
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมาก ( = 4.23, S.D= 0.72 )