การพัฒนาการขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทย
เรื่อง “การพัฒนาการขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทย”
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทยของนักเรียนระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา
ชื่อผู้วิจัย นางสาวนฤมล แก้วคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียน บ้านไร่วิทยา
บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาการขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทย นักเรียนโรงเรียนบ้านไร่วิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 คน ได้แก่
1. ด.ญ. อมลวรรณ ทอระดี
โดยสังเกตพฤติกรรม การขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทย
ผลการวิจัย พบว่านักเรียนจำนวนหนึ่งมีการขับร้องเพลงไทยที่ดีขึ้น ต่างจากการสอนแบบวิธีปกติ โดยวิธีการให้นักเรียนมาฝึกซ้อมขับร้องเพลงไทยในเวลาพักกลางวัน โดยให้นักเรียนขับร้องเพลงไทยทีละบรรทัด ซ้ำไปซ้ำมาจนนักเรียนขับร้องเพลงไทยได้คล่อง โดยผ่านการฝึก ตามลำดับขั้นตอนจากแบบทดสอบที่ 1ไปจนถึง แบบทดสอบที่ 3 แล้วจับกลุ่มมาสอบกับคุณครู นักเรียนจึงเกิดทักษะในการขับร้องเพลงไทยที่ดีขึ้น สามารถขับร้องเพลงไทยได้ชัดเจน ถูกต้อง ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาทักษะการขับร้องเพลงไทยได้อย่างคล่องแคล่ว
ปัญหาและที่มาของงานวิจัย
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวนหนึ่งคน มีปัญหาเกี่ยวกับการขับร้องเพลงไทยเบื้องต้นยังไม่ได้ ซึ่งผู้เรียนคิดว่าการขับร้องเพลงเป็นเรื่องที่ยาก
การขับร้องเพลงไทยเป็นการฝึกทักษะที่ยากมาก ผู้เรียนจะมีปัญหาในเรื่องดังนี้
1. นักเรียนออกเสียงขับร้องไม่ตรงกับระดับเสียงของเพลง
2. นักเรียนใช้ออกกำลังเสียงในการขับร้องไม่เต็มที่ทำให้เกิดเสียงเบา
3. นักเรียนขับร้องเพลงไม่ตรงตามอัตราจังหวะ
4. นักเรียนออกเสียงอักขระไม่ชัดเจน
ความเป็นมา
จากประสบการณ์ การสอนวิชาดนตรีไทยของผู้วิจัย พบว่ามีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวนหนึ่งคน มีปัญหาเกี่ยวกับการขับร้องเพลงไทยเบื้องต้นยังไม่ได้ ซึ่งผู้เรียนคิดว่าการขับร้องเพลงเป็นเรื่องที่ยาก ผู้วิจัยคิดว่า การพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยเริ่มให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งที่ง่ายๆไปหาสิ่งที่ยาก จะทำให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจและมีกำลังใจ ในการพัฒนาทักษะและผลงานทางด้านดนตรีไทยได้ และนอกจากนี้ หากผู้เรียนได้ทำแบบทดสอบ และแบบฝึกปฏิบัติกิจกรรมดนตรีไทยโดยการปฏิบัติแบบซ้ำๆกัน โดยเริ่มจากสิ่งที่ง่ายๆไปหาสิ่งที่ยากจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความแม่นยำในการเรียนรู้ มีทักษะ มีความชำนาญ มีความคล่องแคล่วในการปฏิบัติการขับร้องเพลงไทยได้
ดังนั้นจากเหตุการณ์ข้างต้น ผู้วิจัยจึงจัดทำแบบฝึกหัดขับร้องเพลงไทยมาเพื่อศึกษาในเรื่องของการขับร้องเพลงไทยซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในสาระการเรียนรู้ศิลปะ ( ดนตรี )
ในการเรียนดนตรีไทยนั้น มีหลายรูปแบบเช่น เรียนด้านการปฏิบัติ ด้านวิชาการหรือทฤษฎี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการขับร้องเพลงไทย เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการเรียนดนตรีไทย ผู้วิจัยเห็นว่าการขับร้องเพลงไทยของนักเรียนในชั้นเรียนเป็นปัญหาที่น่าสนใจ จึงได้เกิดการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาการขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทยของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา” ขึ้น
วัตถุประสงค์การวิจัย
1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนในเรื่องการขับร้องเพลง
2. เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
3. เพื่อพัฒนาอารมณ์
4. เพื่อพัฒนาให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียน
5. เพื่อพัฒนาผู้เรียนในเรื่องของจังหวะ
วิธีการดำเนินการวิจัย
1. นำเพลงประกอบการเรียน ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา จำนวน 3 แบบทดสอบ โดยให้นักเรียนฝึกขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทย
จากแบบทดสอบที่ 1 คือ แบบฝึกที่ 1 ฝึกออกเสียงขับร้องให้ตรงกับระดับเสียงของเพลงโดยใช้เครื่องดนตรีไทยเป็นต้นเสียง แล้วให้นักเรียนออกเสียงตาม
แบบทดสอบที่ 2 คือ แบบฝึกที่ 2 นักเรียนฝึกออกเสียงอักขระพยัญชนะไทยให้ชัดเจน
และแบบทดสอบที่ 3 แบบฝึกที่ 3 นักเรียนฝึกขับร้องเพลงลาวดวงเดือนให้ถูกต้องตามจังหวะและระดับเสียง
ผลจากการฝึก การขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทย พบว่า นักเรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น มีพัฒนาการตามลำดับ และจากการติดตามผล เด็กจะมีความเข้าใจและคงทนในการจำยาวนาน โดยทดลองฝึกการขับร้องเพลงโดยใช้แบบฝึกหัดควบคู่ไปกับการเรียนในหลักสูตรปกติ พบว่า เวลาเรียนเพียง 4 สัปดาห์ นักเรียนสามารถพัฒนาศักยภาพในการขับร้องเพลงไทยได้ผลดียิ่งขึ้น
2. ได้จำแนกการเรียนรู้ ออกเป็น 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้ ขั้นเข้าใจ ขั้นนำไปใช้ ขั้นวิเคราะห์ ขั้นสังเคราะห์
และขั้นประเมินคุณค่า กระบวนการคิดที่สำคัญ ได้แก่ การคิดสร้างสรรค์ การคิดแก้ปัญหาการคิดตัดสินใจ
เป็นต้น ดนตรีเป็นสิ่งเร้าที่สำคัญของการทํางานของสมองในการะบวนการคิด ทั้งนี้เพราะการรับรู้ทางดนตรีเกิดจากการจินตนาการ ซึ่งเกิดขึ้นภายในสมองโดยตรง หากสมองได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอจากเพลงที่มีทำนองง่ายๆ เรียนรู้สัญลักษณ์ทางดนตรีไทย จังหวะยกและตก ซึ่งเป็นทักษะที่สอดคล้องกับทักษะกระบวนการคิดอย่างแท้จริง จึงได้ทดลองสอนขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัด ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 1 วันละ 20 นาที เป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยทำการทดสอบ ก่อน/หลัง การอ่านแบบทดสอบ พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการขับร้องเพลงไทยเพิ่มขึ้น
3. ฝึกสมาธิ โดยมีการทำสมาธิก่อนทุกครั้ง สมาธิ หมายถึง ความตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่าง
เดียว คนที่มีสมาธิดี สามารถที่จะทํางานอะไรก็ตามอย่างตั้งอกตั้งใจจนกระทั่งประสบความสําเร็จ สมาธินี้ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะขยายขอบเขตของช่วงเวลามากขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นการขยายของ
ช่วงเวลาที่จิตใจอยู่ในสภาวะนิ่งหรือคงที่ไปพร้อมๆ กัน สภาวะนิ่งหรือคงที่ของจิตใจ เรียกว่า พลังสมาธิ
โลกปัจจุบันนี้ ยอมรับกันว่า การที่บุคคลจะประสบความสำเร็จในกิจการงานต่างๆ ได้ตามวัตถุประสงค์
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. แบบฝึกที่ 1 ฝึกออกเสียงให้ตรงกับระดับเสียงโดยใช้เครื่องดนตรีไทยเป็นต้นเสียง
2. แบบฝึกที่ 2 นักเรียนฝึกออกเสียงอักขระพยัญชนะไทยให้ชัดเจน
3. แบบฝึกที่ 3 นักเรียนฝึกขับร้องเพลงลาวดวงเดือนให้ถูกต้องตามจังหวะและระดับเสียง
การดำเนินการทดลอง
การพัฒนานักเรียนโดยคัดเลือกนักเรียนที่มีปัญหาด้านการขับร้องเพลงไทย ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4 สัปดาห์ โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 : เป็นระยะใช้แบบฝึกทักษะการพัฒนาสติปัญญานักเรียน
ระยะที่ 2 : เป็นระยะพัฒนากระบวนการคิดและการฟัง โดยสังเกตพฤติกรรมการอ่านจังหวะโน้ต จับใจความของ
นักเรียน
ระยะที่ 3 : เป็นระยะพัฒนาอารมณ์พัฒนาการคิดและการปฏิบัติการฝึกขับร้องเพลงไทยของ นักเรียนและ เสริมแรงทางบวก
ระยะที่ 4 : เป็นระยะทดสอบเพื่อให้นักเรียนปฏิบัติการขับร้องเพลงไทยวัดผลสัมฤทธิ์ ด้วยการขับร้อง เพลงไทย
ตารางสรุปผลการปฏิบัติการขับร้องเพลงไทย
สัปดาห์ที่ กิจกรรมที่ปฏิบัติ ขับร้องได้ ขับร้องได้บ้าง ขับร้องไม่ได้
1. สิงหาคม แบบฝึกที่ 1 ฝึกออกเสียงให้ตรงระดับ ( 60 % ) ( 40 % ) -
2. สิงหาคม แบบฝึกที่ 2 ออกเสียงอักขระ ( 73.33 % ) ( 26.66 % ) -
3. สิงหาคม แบบฝึกที่ 3 ร้องเพลงลาวดวงเดือน ( 80 % ) ( 20 % ) -
4. สิงหาคม ปฏิบัติการขับร้องเพลงไทย ( 100 % ) - -
สรุปผลการวิจัย
ผลจากการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาการขับร้องเพลงไทยโดยใช้แบบฝึกหัดการขับร้องเพลงไทยนักเรียนโรงเรียนบ้านไร่วิทยา ” จากการนำไปดำเนินการ นักเรียนได้พัฒนาการขับร้องเพลงไทยจนเกิดความชำนาญ เกิดทักษะความเข้าใจอย่างแท้จริง การขับร้องเพลงไทยยังเป็นการช่วยเสริมสร้างสมาธิ ฝึกความจำ ส่งผลให้นักเรียนมีทักษะในการขับร้องเพลงไทยที่ดีและส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
จากการสรุปการทดสอบนักเรียน ในการพัฒนาการขับร้องเพลงไทย ได้ดังนี้
1. นักเรียนออกเสียงขับร้องตรงกับระดับเสียงของเพลง
2. นักเรียนสามารถออกกำลังเสียงในการขับร้องได้เต็มที่ทำให้ไม่เกิดการขับร้องเสียงเบา
3. นักเรียนสามารถออกเสียงขับร้องเพลงได้ตรงตามอัตราจังหวะ
4. นักเรียนสามารถออกเสียงอักขระได้ชัดเจนถูกต้อง
5. นักเรียนมีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติการขับร้องเพลงไทยได้ถูกต้อง
6. นักเรียนสามารถนำความรู้จากการปฏิบัติการขับร้องเพลงไทยไปใช้ในการขับร้องเพลงไทยได้จริง
ข้อเสนอแนะ
1. ควรให้นักเรียนได้ฝึกขับร้องเพลงไทยบ่อยครั้งเพื่อให้เกิดความชำนาญ
2. ควรจัดให้มีการทดสอบเพื่อให้นักเรียนเกิดการพัฒนาการขับร้องเพลงตลอดเวลา
3. ผู้ปกครองควรส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนดนตรีเพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง มีสมาธิและวินัย
ในตนเองที่ดียิ่งขึ้น
4. กลุ่มนักเรียนที่ต้องพัฒนาได้แก่ นักเรียนที่เรียนดนตรีประเภทอื่นๆ ควรได้รับการพัฒนาเพื่อให้เกิด
ความชำนาญมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนนักเรียนที่เรียนดนตรีไทยควรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง