การพัฒนาการบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอก
เรื่อง “การพัฒนาการบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอก”
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา
ชื่อผู้วิจัย นางสาวนฤมล แก้วคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียน บ้านไร่วิทยา
บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาการบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอก นักเรียนโรงเรียนบ้านไร่วิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี 2 ห้อง 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 1 คน ได้แก่
1. ด.ญ. ประกาย ศรีสวรรค์
โดยสังเกตพฤติกรรม การบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอก
ผลการวิจัย พบว่านักเรียนมีการบรรเลงระนาดที่ดีขึ้น ต่างจากการสอนแบบวิธีปกติ โดยวิธีการให้นักเรียนมาฝึกซ้อมปฏิบัติแบบฝึกหัดระนาดเอกในเวลาพักกลางวัน โดยให้นักเรียนปฏิบัติระนาดเอกทีละแบบฝึกหัด ซ้ำไปซ้ำมาจนนักเรียนปฏิบัติระนาดเอกได้คล่อง โดยผ่านการฝึก ตามลำดับขั้นตอนจากแบบทดสอบที่ 1ไปจนถึง แบบทดสอบที่ 3 แล้วมาสอบกับคุณครู นักเรียนจึงเกิดทักษะในการบรรเลงระนาดเอกที่ดีขึ้น สามารถบรรเลงระนาดเอกได้ชัดเจน ถูกต้อง ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาทักษะการบรรเลงระนาดเอกได้อย่างคล่องแคล่ว
ความเป็นมา
จากประสบการณ์ การสอนวิชาดนตรีไทยของผู้วิจัย พบว่ามีนักเรียน มีปัญหาเกี่ยวกับการบรรเลงระนาดเอกเบื้องต้นยังไม่ได้ ซึ่งผู้เรียนคิดว่าการบรรเลงระนาดเอกเป็นเรื่องที่ยาก ผู้วิจัยคิดว่า การพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยเริ่มให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งที่ง่ายๆไปหาสิ่งที่ยาก จะทำให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจและมีกำลังใจ ในการพัฒนาทักษะและผลงานทางด้านดนตรีไทยได้ และนอกจากนี้ หากผู้เรียนได้ทำแบบทดสอบ และแบบฝึกปฏิบัติกิจกรรมดนตรีไทยโดยการปฏิบัติแบบซ้ำๆกัน โดยเริ่มจากสิ่งที่ง่ายๆไปหาสิ่งที่ยากจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความแม่นยำในการเรียนรู้ มีทักษะ มีความชำนาญ มีความคล่องแคล่วในการปฏิบัติการบรรเลงระนาดเอกได้
การบรรเลงระนาดเอกเป็นการฝึกทักษะที่ยากมาก ผู้เรียนจะมีปัญหาในเรื่องดังนี้
1. นักเรียนบรรเลงระนาดเอกตีมือทั้งสองข้างไม่พร้อมกัน
2. นักเรียนไม่สามารถบรรเลงระนาดเอกได้ตรงคู่แปด
3. นักเรียนไม่สามารถบรรเลงบรรเลงระนาดเอกตรงตามอัตราจังหวะ
4. นักเรียนไม่สามารถบรรเลงโน้ตสามพยางค์ติดกันได้
ดังนั้นจากเหตุการณ์ข้างต้น ผู้วิจัยจึงจัดทำแบบฝึกหัดระนาดเอกมาเพื่อศึกษาในเรื่องของการบรรเลงระนาดเอกซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในสาระการเรียนรู้ศิลปะ ( ดนตรี )
ในการเรียนดนตรีไทยนั้น มีหลายรูปแบบเช่น เรียนด้านการปฏิบัติ ด้านวิชาการหรือทฤษฎี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการขับร้องเพลงไทย เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการเรียนดนตรีไทย ผู้วิจัยเห็นว่าการบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนในชั้นเรียนเป็นปัญหาที่น่าสนใจ จึงได้เกิดการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาการบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา” ขึ้น
วัตถุประสงค์การวิจัย
1. เพื่อพัฒนาผู้เรียนในเรื่องการบรรเลงระนาดเอก
2. เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
3. เพื่อพัฒนาอารมณ์
4. เพื่อพัฒนาให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียน
5. เพื่อพัฒนาผู้เรียนในเรื่องของจังหวะในการบรรเลงระนาดเอก
วิธีการดำเนินการวิจัย
1. นำแบบฝึกหัดประกอบการเรียน ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา จำนวน 3 แบบทดสอบ โดยให้นักเรียนฝึกระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอก
จากแบบทดสอบที่ 1 คือ แบบฝึกที่ 1 ฝึกตีเสียงให้มือทั้งสองข้างขึ้นและลงพร้อมๆกัน เรียกว่า “การตีฉาก” แล้วให้นักเรียนฝึกหัดซ้ำๆ ไปมา อย่างนั้นไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเมื่อยล้าแล้วจึงหยุดตี
แบบทดสอบที่ 2 คือ แบบฝึกที่ 2 นักเรียนฝึกตีโน้ตเดียวกันสามพยางค์ติดกันให้ชัดเจน เรียกว่า “เสดาะ”
และแบบทดสอบที่ 3 แบบฝึกที่ 3 นักเรียนฝึกแบบฝึกการตีข้ามโน้ตและตีเรียงโน้ตให้ถูกต้องตามจังหวะและระดับเสียง
ผลจากการฝึก การปฏิบัติระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการปฏิบัติตีระนาดเอก พบว่า นักเรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น มีพัฒนาการตามลำดับ และจากการติดตามผล เด็กจะมีความเข้าใจและคงทนในการจำยาวนาน โดยทดลองฝึกการปฏิบัติตีระนาดเอก โดยใช้แบบฝึกหัดควบคู่ไปกับการเรียนในหลักสูตรปกติ พบว่า เวลาเรียนเพียง 4 สัปดาห์ นักเรียนสามารถพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติตีระนาดเอก ได้ผลดียิ่งขึ้น
2. ได้จำแนกการเรียนรู้ ออกเป็น 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นความรู้ ขั้นเข้าใจ ขั้นนำไปใช้ ขั้นวิเคราะห์ ขั้นสังเคราะห์
และขั้นประเมินคุณค่า กระบวนการคิดที่สำคัญ ได้แก่ การคิดสร้างสรรค์ การคิดแก้ปัญหาการคิดตัดสินใจ
เป็นต้น ดนตรีเป็นสิ่งเร้าที่สำคัญของการทำงานของสมองในการะบวนการคิด ทั้งนี้เพราะการรับรู้ทางดนตรีเกิดจากการจินตนาการ ซึ่งเกิดขึ้นภายในสมองโดยตรง หากสมองได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอจากเพลงที่มีทำนองง่ายๆ เรียนรู้สัญลักษณ์ทางดนตรีไทย จังหวะยกและตก ซึ่งเป็นทักษะที่สอดคล้องกับทักษะกระบวนการคิดอย่างแท้จริง จึงได้ทดลองสอนการปฏิบัติตีระนาดเอก โดยใช้แบบฝึกหัด ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 4/3 วันละ 20 นาที เป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยทำการทดสอบ ก่อน/หลัง การอ่านแบบทดสอบ พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการปฏิบัติตีระนาดเอก เพิ่มขึ้น
3. ฝึกสมาธิ โดยมีการทำสมาธิก่อนทุกครั้ง สมาธิ หมายถึง ความตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่าง
เดียว คนที่มีสมาธิดี สามารถที่จะทำงานอะไรก็ตามอย่างตั้งอกตั้งใจจนกระทั่งประสบความสำเร็จ สมาธินี้ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะขยายขอบเขตของช่วงเวลามากขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นการขยายของ
ช่วงเวลาที่จิตใจอยู่ในสภาวะนิ่งหรือคงที่ไปพร้อมๆ กัน สภาวะนิ่งหรือคงที่ของจิตใจ เรียกว่า พลังสมาธิ
โลกปัจจุบันนี้ ยอมรับกันว่า การที่บุคคลจะประสบความสำเร็จในกิจการงานต่างๆ ได้ตามวัตถุประสงค์
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. แบบฝึกที่ 1 ฝึกตีเสียงให้มือทั้งสองข้างขึ้นและลงพร้อมๆกัน เรียกว่า “การตีฉาก” แล้วให้นักเรียนฝึกหัดซ้ำๆ
2. แบบฝึกที่ 2 นักเรียนฝึกตีโน้ตเดียวกันสามพยางค์ติดกันให้ชัดเจน เรียกว่า “เสดาะ”
3. แบบฝึกที่ 3 นักเรียนฝึกแบบฝึกการตีข้ามโน้ตและตีเรียงโน้ตให้ถูกต้องตามจังหวะและระดับเสียง
การดำเนินการทดลอง
การพัฒนานักเรียนโดยคัดเลือกนักเรียนที่มีปัญหาด้านการปฏิบัติตีระนาดเอก ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4 สัปดาห์ โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 : เป็นระยะใช้แบบฝึกทักษะการพัฒนาสติปัญญานักเรียน
ระยะที่ 2 : เป็นระยะพัฒนากระบวนการคิดและการฟัง โดยสังเกตพฤติกรรมการจับจังหวะโน้ต จับใจความของ
นักเรียน
ระยะที่ 3 : เป็นระยะพัฒนาอารมณ์พัฒนาการคิดและการปฏิบัติการฝึกการปฏิบัติตีระนาดเอกของนักเรียน และเสริมแรงทางบวก
ระยะที่ 4 : เป็นระยะทดสอบเพื่อให้นักเรียนปฏิบัติการตีระนาดเอกวัดผลสัมฤทธิ์ ด้วยการการปฏิบัติตี ระนาดเอก
ตารางสรุปผลการปฏิบัติการขับร้องเพลงไทย
สัปดาห์ที่ กิจกรรมที่ปฏิบัติ ปฏิบัติได้ ปฏิบัติได้บ้าง ปฏิบัติไม่ได้
1. มกราคม แบบฝึกที่ 1 ฝึกปฏิบัติตีฉาก ( 60 % ) ( 40 % ) -
2. มกราคม แบบฝึกที่ 2 ฝึกปฏิบัติตีเสียงสะเดาะ ( 73.33 % ) ( 26.66 % ) -
3. มกราคม แบบฝึกที่ 3 ฝึกตีเรียงโน้ต,ข้ามโน้ต ( 80 % ) ( 20 % ) -
4. มกราคม การปฏิบัติระนาดเอก ( 100 % ) - -
สรุปผลการวิจัย
ผลจากการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาการบรรเลงระนาดเอกโดยใช้แบบฝึกหัดการบรรเลงระนาดเอกของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไร่วิทยา ” จากการนำไปดำเนินการ นักเรียนได้พัฒนาการปฏิบัติระนาดเอกจนเกิดความชำนาญ เกิดทักษะความเข้าใจอย่างแท้จริง การปฏิบัติระนาดเอกยังเป็นการช่วยเสริมสร้างสมาธิ ฝึกความจำ ส่งผลให้นักเรียนมีทักษะในการปฏิบัติระนาดเอกที่ดีและส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
จากการสรุปการทดสอบนักเรียน ในการพัฒนาการปฏิบัติระนาดเอก ได้ดังนี้
1. นักเรียนสามารถปฏิบัติระนาดเอกเสียงเท่าทั้งสองมือพร้อมๆ กัน ได้ชัดเจนถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถปฏิบัติระนาดเอกเสียงเสดาะสามพยางค์ ได้ชัดเจนถูกต้อง
3. นักเรียนสามารถปฏิบัติระนาดเอกเรียงเสียงและข้ามเสียง ตีให้มือเท่าทั้งลงบนผืนระนาดเอก พร้อมๆ กัน ได้ชัดเจนถูกต้องได้ตรงตามอัตราจังหวะ
4. นักเรียนสามารถปฏิบัติระนาดเอกให้ได้เสียงที่เราะถูกต้องและมีคุณภาพ
5. นักเรียนมีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติการระนาดเอกในการบรรเลงประกอบการขับร้องเพลงไทยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
6. นักเรียนสามารถนำความรู้จากการปฏิบัติการปฏิบัติการระนาดเอกไปใช้ในการปฏิบัติการระนาดเอกได้จริง
ข้อเสนอแนะ
1. ควรให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติการระนาดเอกบ่อยครั้งเพื่อให้เกิดความชำนาญ
2. ควรจัดให้มีการทดสอบเพื่อให้นักเรียนเกิดการพัฒนาการปฏิบัติการระนาดเอกตลอดเวลา
3. ผู้ปกครองควรส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนดนตรีเพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง มีสมาธิและวินัย
ในตนเองที่ดียิ่งขึ้น
4. กลุ่มนักเรียนที่ต้องพัฒนาได้แก่ นักเรียนที่เรียนดนตรีประเภทอื่นๆ ควรได้รับการพัฒนาเพื่อให้เกิด
ความชำนาญมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนนักเรียนที่เรียนดนตรีไทยควรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง