LASTEST NEWS

29 พ.ย. 2567โรงเรียนชลกันยานุกูล ประกาศปิดกรณีพิเศษ หยุดเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2-3 ม.ค.68 มีผลหยุดยาว 9 วัน ตั้งแต่ 28 ธ.ค. 67 - 5 ม.ค.68 29 พ.ย. 2567โรงเรียนไพศาลีพิทยา รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 10,000.- บาท สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 6 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567วิทยาลัยสารพัดช่างตราด รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 19 - 27 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567วิทยาลัยเทคนิคเลย รับสมัครพนักงานราชการครู จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 6 - 16 ธันวาคม 2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รับสมัครครูอัตราจ้าง เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค.2567 28 พ.ย. 2567โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 10,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567สพฐ.มีหนังสือ ด่วนที่สุด! ให้นำแนวทาง PISA มาใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการสรรหาบุคลากร ทุกตำแหน่ง 27 พ.ย. 2567บอร์ดก.ค.ศ.เคาะร่างแนวปฏิบัติการย้ายครู ผ่านระบบ TRS เตรียมเปิดใช้งาน มกราคม 2568 27 พ.ย. 2567โรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาจีน เงินเดือน 12,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ธันวาคม 2567 27 พ.ย. 2567ด่วนที่สุด!! ที่ ศธ 04009/ว7543 เรื่อง การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น

usericon

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อ ๑) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ๓) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ๔) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๒ โรงเรียนนาข่าวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๓๒ คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ๑) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน ๑๐ แผน ใช้เวลาสอนแผนละ ๒ ชั่วโมง ๒) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ ค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ ๐.๓๐ - ๐.๗๖ ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ ๐.๒๑ - ๐.๗๓ และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๗ และ ๓) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน ๒๐ ข้อ มีอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ ๐.๒๖ – ๐.๗๙ และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๒ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)


    ผลการวิจัยพบว่า
๑.     แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ (E๑/E๒) เท่ากับ ๘๔.๐๓/๘๓.๔๔ ซึ่งถือว่า แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๒.     ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ ๐.๗๕๒๐ ซึ่งแสดงว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบสืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ ๗๕.๒๐
๓.     นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๔.    นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
หาความรู้ ๗ ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง แสงและการมองเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^