การสอนภาษาอังกฤษแบบ DR-TA(Directed Reading Thinking Activity)
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) สำหรับพัฒนาความสามารถในการอ่านและความสนใจการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาลปลายบางวัดสิงห์ (แจ่มชื่นวิทยาคม) สังกัดเทศบาลตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ปีการศึกษา 2561 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือ ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) สำหรับพัฒนาความสามารถในการอ่านและความสนใจการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบDR-TA (Directed Reading Thinking Activity) (3) แบบวัดความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แบบ DR-TA(Directed Reading Thinking Activity) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage), ค่าเฉลี่ย (Mean), ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 , ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) และการทดสอบค่าที (t-test แบบ Dependent Sample)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) สำหรับพัฒนาความสามารถในการอ่านและความสนใจการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 โดยมีค่า E1 / E2 = 83.03/81.92
2. ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของแผนการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) สำหรับพัฒนาความสามารถในการอ่านและความสนใจการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6422 แสดงว่า ทำให้ผู้เรียนมีความlสามารถในการอ่านเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.22
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความสนใจการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลังเรียนโดยใช้การสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05