: การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเส
ผู้รายงาน : นายอัสดีน คงหัด
ปีที่รายงาน : พ.ศ. 2559
บทคัดย่อ
การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรณีพิบัติภัยในท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรณีพิบัติภัยในท้องถิ่น ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อใช้เอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรณีพิบัติภัยในท้องถิ่น 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรณีพิบัติภัยในท้องถิ่น ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านช่องพลี องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 3 ห้อง ประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 27 คน ประถมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 20 คน ประถมศึกษาปีที่ 6/3 จำนวน 29 คน รวมจำนวน 76 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนบ้านช่องพลี องค์การบริหารส่วนตำบลอาวนาง จำนวน 27 คน เป็นการสุ่มกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E ) จำนวน 12 แผนการจัดการเรียนรู้ 14 ชั่วโมง 2) เอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ (5E) จำนวน 1 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใช้วัดผลการเรียนรู้ของผู้เรียนก่อนเรียน และหลังเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนบ้านช่องพลี ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ตามเกณฑ์ 80/80 ของสูตร E1/E2 ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าสถิติที (t-distribution)
ผลการศึกษา พบว่า
1. การพัฒนาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่ามีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.39/84.47 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเมื่อใช้เอกสารประกอบการเรียน พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาวิทยาศาสตร์ พบว่า ในภาพรวมมีความพึงพอใจมากที่สุด
ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนเป็นไปตามเกณฑ์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน