การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางสุพรรณี พรมเศก
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
ในการศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียน
คำควบกล้ำ ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน
การเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านโปร่งสะเดา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 22 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องคำควบกล้ำ จำนวน 14 แผนใช้เวลา
14 ชั่วโมง แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test dependent samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 89.30/86.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.72 แสดงว่าผู้เรียน มีความรู้เพิ่มขึ้น 0.72
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางสุพรรณี พรมเศก
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
ในการศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียน
คำควบกล้ำ ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน
การเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านโปร่งสะเดา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 22 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องคำควบกล้ำ จำนวน 14 แผนใช้เวลา
14 ชั่วโมง แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test dependent samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 89.30/86.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.72 แสดงว่าผู้เรียน มีความรู้เพิ่มขึ้น 0.72