การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การนับจำนวน 1–10
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การนับจำนวน 1–10 โดยใช้
รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา
สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3–4 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน
ผู้วิจัย นางลุนณี สายสุข ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน สังกัดกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนเมืองน้อย
อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน 3) ศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นเด็กปฐมวัยที่มีอายุ 3-4 ปี ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลโพนเมืองน้อย อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ปีการศึกษา 2562 จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 50 แผน มีคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.67-0.78 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.42-0.71 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 และแบบสอบถามความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา เป็นแบบให้เลือกรูปภาพใบหน้าเลือกมี 3 ลักษณะ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.46-0.90 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( )และวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ใช้วิธีทดสอบ Wilcoxon Singed-Rank Test
ผลการวิจัยพบว่า แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.48/86.82 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ เด็กปฐมวัยที่เรียนตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์หลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก
รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา
สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3–4 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน
ผู้วิจัย นางลุนณี สายสุข ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน สังกัดกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนเมืองน้อย
อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน 3) ศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นเด็กปฐมวัยที่มีอายุ 3-4 ปี ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยนาเวิน สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลโพนเมืองน้อย อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ปีการศึกษา 2562 จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 50 แผน มีคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.67-0.78 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.42-0.71 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 และแบบสอบถามความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา เป็นแบบให้เลือกรูปภาพใบหน้าเลือกมี 3 ลักษณะ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.46-0.90 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( )และวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ใช้วิธีทดสอบ Wilcoxon Singed-Rank Test
ผลการวิจัยพบว่า แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย (อายุ 3-4 ปี) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.48/86.82 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ เด็กปฐมวัยที่เรียนตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรื่อง การนับจำนวน 1-10 โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์หลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคปร่วมกับชุดกิจกรรมเกมการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก