การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบฯ
ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบ การเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้รายงาน : นายสุพจน์ สุขแยง
ปีที่ศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าดัชนีประสิทธิผลร้อยละ 50 ขึ้นไป และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 กลุ่มตัวอย่าง
ที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียน วัฒโนทัยพายัพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 จำนวน 46 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เนื่องจากโรงเรียนได้จัดชั้นเรียนแบบคละความสามารถของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน 60 แผน 2) เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน 3 เล่ม 3) แบบทดสอบจำนวน 24 ฉบับ ประกอบด้วยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนแต่ละเรื่องจำนวน 23 ฉบับ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม จำนวน 1 ฉบับ และ 4) แบบสอบถามความความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์แบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 มีประสิทธิภาพรวมของเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 - 3 (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 86.89/83.71, 88.52/84.09 และ 88.93/86.22 ตามลำดับ
2. ร้อยละของดัชนีประสิทธิผลรวมเมื่อนักเรียนได้รับจากการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เล่ม 1 – 3 มีค่าเท่ากับ 77.01, 79.16 และ 83.59 ตามลำดับ
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 46 คน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ทั้งหมด 475 คน หลังเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 46 คน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ทั้งหมด 475 คน มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.98 โดยที่รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือรายการที่ 8 สื่อการเรียนการสอนออนไลน์ในเอกสารประกอบการเรียนช่วยให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมนอกเวลาเรียนปกติได้เพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.89 ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือรายการที่ 11 การประเมินตนเองก่อนเรียนและหลังเรียนมีคุณภาพในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.84
ชื่อผู้รายงาน : นายสุพจน์ สุขแยง
ปีที่ศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าดัชนีประสิทธิผลร้อยละ 50 ขึ้นไป และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 กลุ่มตัวอย่าง
ที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียน วัฒโนทัยพายัพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 จำนวน 46 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เนื่องจากโรงเรียนได้จัดชั้นเรียนแบบคละความสามารถของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน 60 แผน 2) เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน 3 เล่ม 3) แบบทดสอบจำนวน 24 ฉบับ ประกอบด้วยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนแต่ละเรื่องจำนวน 23 ฉบับ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม จำนวน 1 ฉบับ และ 4) แบบสอบถามความความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์แบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 มีประสิทธิภาพรวมของเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 - 3 (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 86.89/83.71, 88.52/84.09 และ 88.93/86.22 ตามลำดับ
2. ร้อยละของดัชนีประสิทธิผลรวมเมื่อนักเรียนได้รับจากการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เล่ม 1 – 3 มีค่าเท่ากับ 77.01, 79.16 และ 83.59 ตามลำดับ
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 46 คน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ทั้งหมด 475 คน หลังเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 46 คน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ทั้งหมด 475 คน มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.98 โดยที่รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือรายการที่ 8 สื่อการเรียนการสอนออนไลน์ในเอกสารประกอบการเรียนช่วยให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมนอกเวลาเรียนปกติได้เพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.89 ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือรายการที่ 11 การประเมินตนเองก่อนเรียนและหลังเรียนมีคุณภาพในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.84