การใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบ... ป.2
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบ
จำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส
(นิพัทธ์หริณสูตร์)
ชื่อผู้ศึกษาค้นคว้า นางสาวมาลัย สุดนิมิตร
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส (นิพัทธ์หริณสูตร์)
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม
ปีที่ทำ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส(นิพัทธ์หริณสูตร์) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดชัยมงคล และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส (นิพัทธ์หริณสูตร์) ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้ง ไม่เกิน 1,000 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส(นิพัทธ์หริณสูตร์) สังกัดเทศบาล เมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ (E1/E2) นักเรียนทำแบบทดสอบระหว่างเรียนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 35.09 คิดเป็นร้อยละ 87.74 และทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.39 คิดเป็นร้อยละ 81.93 แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.74/81.93 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน (E1/E2) ไม่ต่ำกว่า 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อทำแบบทดสอบย่อยในแบบฝึกเสริมทักษะจำนวน 4 เรื่อง พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนทั้ง 4 เรื่อง แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจในระดับมาก
จำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส
(นิพัทธ์หริณสูตร์)
ชื่อผู้ศึกษาค้นคว้า นางสาวมาลัย สุดนิมิตร
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส (นิพัทธ์หริณสูตร์)
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม
ปีที่ทำ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส(นิพัทธ์หริณสูตร์) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดชัยมงคล และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส (นิพัทธ์หริณสูตร์) ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้ง ไม่เกิน 1,000 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส(นิพัทธ์หริณสูตร์) สังกัดเทศบาล เมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ (E1/E2) นักเรียนทำแบบทดสอบระหว่างเรียนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 35.09 คิดเป็นร้อยละ 87.74 และทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.39 คิดเป็นร้อยละ 81.93 แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.74/81.93 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน (E1/E2) ไม่ต่ำกว่า 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อทำแบบทดสอบย่อยในแบบฝึกเสริมทักษะจำนวน 4 เรื่อง พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนทั้ง 4 เรื่อง แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจในระดับมาก