รายงานการพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะภาษาไทย
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะภาษาไทย
เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้รายงาน ณดา แวกาเดร์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองปัตตานี ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 รวมทั้งสิ้น 102 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 25 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองปัตตานี ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 แบบปฏิบัติ (10 คะแนน) และตอนที่ 2 แบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ (30 คะแนน) และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่าง
โดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.01/83.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้รายงาน ณดา แวกาเดร์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองปัตตานี ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 รวมทั้งสิ้น 102 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 25 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองปัตตานี ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 แบบปฏิบัติ (10 คะแนน) และตอนที่ 2 แบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ (30 คะแนน) และแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่าง
โดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.01/83.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อชุดฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก