รายงานผลการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง
ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3
ผู้รายงาน แสงเดือน อุดล้อม
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง 3)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก (รัตนกะลัสอนุสรณ์) ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบุรี จำนวนทั้งสิ้น 65 คน ประกอบด้วย ชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 จำนวน 33 คน และชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 จำนวน 35 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก (รัตนกะลัสอนุสรณ์) ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบุรี จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 7 ชุด แผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 28 แผน และแบบประเมินพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง จำนวน 4 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหา ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ วิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Samples) และ ค่าดัชนีประสิทธิผล
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.56/84.76 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1
2. พัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดประสบการณ์มีค่าเท่ากับ 0.6327 แสดงว่า ดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น 0.6327 หรือคิดเป็นร้อยละ 63.27
4. เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในระดับมาก ( = 2.70, S.D. = 0.45)
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3
ผู้รายงาน แสงเดือน อุดล้อม
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง 3)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก (รัตนกะลัสอนุสรณ์) ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบุรี จำนวนทั้งสิ้น 65 คน ประกอบด้วย ชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 จำนวน 33 คน และชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 จำนวน 35 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก (รัตนกะลัสอนุสรณ์) ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบุรี จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 7 ชุด แผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 28 แผน และแบบประเมินพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง จำนวน 4 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหา ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ วิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Samples) และ ค่าดัชนีประสิทธิผล
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.56/84.76 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1
2. พัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดประสบการณ์มีค่าเท่ากับ 0.6327 แสดงว่า ดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น 0.6327 หรือคิดเป็นร้อยละ 63.27
4. เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในระดับมาก ( = 2.70, S.D. = 0.45)