รายงานการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง
ชื่อเรื่อง รายงานการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ผู้รายงาน นางนุชนารถ ดือราแม
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อน และหลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง ประชากรกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมัสยิดยุมอียะห์ (กำปงปายง) ห้อง 4 อายุ 3-4 ปี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 16 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 8 ชุด แผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 32 แผน และแบบประเมินพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง จำนวน 4 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples) และค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.27/85.68 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. พัฒนาการความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็ก หลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและประกอบเพลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ผู้รายงาน นางนุชนารถ ดือราแม
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลงเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อน และหลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง ประชากรกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมัสยิดยุมอียะห์ (กำปงปายง) ห้อง 4 อายุ 3-4 ปี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 16 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 8 ชุด แผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 32 แผน และแบบประเมินพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง จำนวน 4 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples) และค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.27/85.68 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. พัฒนาการความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็ก หลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะประกอบเพลง สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและประกอบเพลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้