บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางสาวสุภาวดี เฝือชัย
สังกัด โรงเรียนอุดมวิทยากร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนอุดมวิทยากร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร จำนวน 18 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 ชุด มีค่าเฉลี่ยรายชุดที่ 1-4 เท่ากับร้อยละ 81.06, 81.41, 82.12 และ 82.00 อยู่ในระดับดี ทุกชุด แผนการจัดการเรียนรู้: ของดีเมืองหลังสวน ซึ่งมีจำนวน 12 แผน ใช้เวลาสอน จำนวน 12 ชั่วโมง (ไม่รวมแผนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน ก่อนและหลังเรียน เป็นแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 อยู่ในระดับมากที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 81.65/82.94 ซึ่งสูงกว่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้ จึงยอมรับได้ว่า แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ สามารถนำไปใช้พัฒนาความสามารถด้านทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( )เท่ากับ 4.32 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.30
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางสาวสุภาวดี เฝือชัย
สังกัด โรงเรียนอุดมวิทยากร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนอุดมวิทยากร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร จำนวน 18 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 ชุด มีค่าเฉลี่ยรายชุดที่ 1-4 เท่ากับร้อยละ 81.06, 81.41, 82.12 และ 82.00 อยู่ในระดับดี ทุกชุด แผนการจัดการเรียนรู้: ของดีเมืองหลังสวน ซึ่งมีจำนวน 12 แผน ใช้เวลาสอน จำนวน 12 ชั่วโมง (ไม่รวมแผนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน ก่อนและหลังเรียน เป็นแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 อยู่ในระดับมากที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 81.65/82.94 ซึ่งสูงกว่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้ จึงยอมรับได้ว่า แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ สามารถนำไปใช้พัฒนาความสามารถด้านทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นอำเภอหลังสวน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( )เท่ากับ 4.32 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.30