การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน
ชื่อเรื่อง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่อง การประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้า
สู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางเดือนเพ็ญ โต่นวุธ
ปีที่ทำวิจัย พ.ศ. 2560
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับงาน มีทักษะในการทำงาน เห็นคุณค่าและมีความรู้สึกที่ดีต่องาน ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้ จึงมีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้าสู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 หาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน และศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยโครงงานของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอ
พยัคฆภูมิพิสัย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 26 คน จาก 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มที่เรียนวิชางานประดิษฐ์ เป็นวิชาพื้นฐาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชนิดได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน จำนวน 8 แผน เป็นแผนทฤษฎี 5แผน ทำการสอนแผนละ 2 ชั่วโมง แผนปฏิบัติ 3 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมเวลาในการสอน 16 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่0.37 ถึง 0.91 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.77 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับจำนวน 20 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.78 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้าสู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.44/85.19
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้าสู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6476
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยโครงงาน โดยรวมและรายด้าน 3 ด้านคือด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านสื่อการเรียนการสอน และด้านโครงงานอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานเรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้า
สู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสมครูผู้สอนวิชางานประดิษฐ์สามารถนำไปใช้เป็นทางเลือกในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชางานประดิษฐ์ได้เป็นอย่างดี
สู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางเดือนเพ็ญ โต่นวุธ
ปีที่ทำวิจัย พ.ศ. 2560
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับงาน มีทักษะในการทำงาน เห็นคุณค่าและมีความรู้สึกที่ดีต่องาน ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้ จึงมีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้าสู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 หาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน และศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยโครงงานของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อำเภอ
พยัคฆภูมิพิสัย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 26 คน จาก 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มที่เรียนวิชางานประดิษฐ์ เป็นวิชาพื้นฐาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชนิดได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน จำนวน 8 แผน เป็นแผนทฤษฎี 5แผน ทำการสอนแผนละ 2 ชั่วโมง แผนปฏิบัติ 3 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมเวลาในการสอน 16 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่0.37 ถึง 0.91 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.77 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับจำนวน 20 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.78 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้าสู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.44/85.19
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงาน เรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้าสู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6476
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยโครงงาน โดยรวมและรายด้าน 3 ด้านคือด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านสื่อการเรียนการสอน และด้านโครงงานอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานเรื่องการประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษผ้า
สู่งานอาชีพตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสมครูผู้สอนวิชางานประดิษฐ์สามารถนำไปใช้เป็นทางเลือกในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชางานประดิษฐ์ได้เป็นอย่างดี