การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT
ชื่อเรื่อง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา
เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ผู้รายงาน วิภาพรรณ แก้วศรี
สถานศึกษา โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์)
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความพร้อมด้านสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และแบบทดสอบความพร้อมทางสติปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.60 - 1.00 ค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.44 – 0.73 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.54 – 0.85 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า
1.ประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เท่ากับ 82.96/83.29 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.ความพร้อมด้านสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.ค่าดัชนีประสิทธิผลของความพร้อมด้านสติปัญญาก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เท่ากับ 0.6619 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าด้านสติปัญญาคิดเป็นร้อยละ 66.19
เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ผู้รายงาน วิภาพรรณ แก้วศรี
สถานศึกษา โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์)
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความพร้อมด้านสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และแบบทดสอบความพร้อมทางสติปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.60 - 1.00 ค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.44 – 0.73 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.54 – 0.85 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า
1.ประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เท่ากับ 82.96/83.29 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.ความพร้อมด้านสติปัญญาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.ค่าดัชนีประสิทธิผลของความพร้อมด้านสติปัญญาก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT เพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา เรื่อง ผัก ผลไม้ดีมีคุณค่า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เท่ากับ 0.6619 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าด้านสติปัญญาคิดเป็นร้อยละ 66.19