รายงานการสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้
ผู้วิจัย นางจริยา แซ่อุย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานการสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) เพื่อสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และ4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อการเรียนด้วยพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเนินสง่า อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 28 คน โดยทำการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร จำนวน 10 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร จำนวน 40 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อการเรียนด้วย แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีจำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบสมมุติฐานโดยใช้ค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่า มีนักเรียนได้ระดับผลการเรียนระดับคะแนน ใน
ระดับต่ำกว่าที่เกณฑ์กำหนด นอกจากนี้จากการสังเกตและบันทึกผลของครูในชั้นเรียนยังพบว่า นักเรียนยังขาดทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ จากการให้นักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนที่ครูจัดขึ้นในชั้นเรียน นักเรียนยังมีความกังวลในการพูด การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ สังเกตจากการนำเสนอหน้าชั้นเรียน อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ครูสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ อีกทั้งสาเหตุของสภาพปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในรายวิชา ภาษาอังกฤษ สรุปประเด็นที่นักเรียนนำเสนอได้ว่า กิจกรรมการสอนไม่เปิดโอกาสฝึกฝนการพูด คิดเป็นร้อยละ 38.12 รองลงมาเป็นนักเรียนไม่กล้าแสดงออก ร้อยละ 27.20 และบทบาทของนักเรียนมีน้อย ร้อยละ 22.42
2. สามารถสร้างแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
เรื่อง Father of the land ได้ทั้งสิ้นจำนวน 10 แผน ทำการทดลองหาประสิทธิภาพ ทั้งแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Testing) และมีผลการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.82/83.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
3. นักเรียนมีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 24.83 คะแนนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 34.03
ซึ่งทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land หลังเรียนโดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
เท่ากับ 0.15 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดสามอันดับแรก คือ การเรียนโดยวิธีนี้ทำให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมจริงและร่วมปฏิบัติจริงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.67 รองลงมาคือ เนื้อเรื่องในแบบฝึกเป็นเรียงลำดับเรื่องจากง่ายไปยาก และการเรียนโดยวิธีนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสวงหาความรู้โดยวิธีการและความพอใจของตนเองมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.56 และ 4.47 ตามลำดับ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานการสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) เพื่อสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และ4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อการเรียนด้วยพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเนินสง่า อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 28 คน โดยทำการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร จำนวน 10 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร จำนวน 40 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อการเรียนด้วย แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีจำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบสมมุติฐานโดยใช้ค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่า มีนักเรียนได้ระดับผลการเรียนระดับคะแนน ใน
ระดับต่ำกว่าที่เกณฑ์กำหนด นอกจากนี้จากการสังเกตและบันทึกผลของครูในชั้นเรียนยังพบว่า นักเรียนยังขาดทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ จากการให้นักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนที่ครูจัดขึ้นในชั้นเรียน นักเรียนยังมีความกังวลในการพูด การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ สังเกตจากการนำเสนอหน้าชั้นเรียน อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ครูสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ อีกทั้งสาเหตุของสภาพปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในรายวิชา ภาษาอังกฤษ สรุปประเด็นที่นักเรียนนำเสนอได้ว่า กิจกรรมการสอนไม่เปิดโอกาสฝึกฝนการพูด คิดเป็นร้อยละ 38.12 รองลงมาเป็นนักเรียนไม่กล้าแสดงออก ร้อยละ 27.20 และบทบาทของนักเรียนมีน้อย ร้อยละ 22.42
2. สามารถสร้างแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
เรื่อง Father of the land ได้ทั้งสิ้นจำนวน 10 แผน ทำการทดลองหาประสิทธิภาพ ทั้งแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Testing) และมีผลการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.82/83.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
3. นักเรียนมีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 24.83 คะแนนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 34.03
ซึ่งทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง Father of the land หลังเรียนโดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อการสื่อสาร สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
เท่ากับ 0.15 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดสามอันดับแรก คือ การเรียนโดยวิธีนี้ทำให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมจริงและร่วมปฏิบัติจริงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.67 รองลงมาคือ เนื้อเรื่องในแบบฝึกเป็นเรียงลำดับเรื่องจากง่ายไปยาก และการเรียนโดยวิธีนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสวงหาความรู้โดยวิธีการและความพอใจของตนเองมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.56 และ 4.47 ตามลำดับ