รายงานการพัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ (5Es) เรื่อง เศษส่วน
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา วรรณภา หินเดช
ปีที่ทำการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลหางดง (ประชาคมสร้างสรรค์) อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวนนักเรียน 42 คน ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน ใช้การทดลองใช้สถิติค่า t-test
ผลการศึกษาสรุปได้ว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลหางดง(ประชาคมสร้างสรรค์) มีค่าเท่ากับ 82.12/86.13 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังทดลองใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยหลังทดลองมีคะแนนสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่องเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีความพึงพอใจเฉลี่ย 4.29
อยู่ในระดับพึงพอใจมาก
ทั้งนี้เนื่องจากชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิ์ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นวิธีเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นสื่อที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีรูปภาพรูปเล่มที่น่าสนใจ มีการเสริมแรง พร้อมทั้งมีกลวิธีกระตุ้นให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองที่หลากหลาย จึงส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความพึงพอใจในการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก
ผู้ศึกษา วรรณภา หินเดช
ปีที่ทำการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลหางดง (ประชาคมสร้างสรรค์) อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวนนักเรียน 42 คน ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน ใช้การทดลองใช้สถิติค่า t-test
ผลการศึกษาสรุปได้ว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลหางดง(ประชาคมสร้างสรรค์) มีค่าเท่ากับ 82.12/86.13 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังทดลองใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยหลังทดลองมีคะแนนสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่องเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีความพึงพอใจเฉลี่ย 4.29
อยู่ในระดับพึงพอใจมาก
ทั้งนี้เนื่องจากชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิ์ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นวิธีเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นสื่อที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีรูปภาพรูปเล่มที่น่าสนใจ มีการเสริมแรง พร้อมทั้งมีกลวิธีกระตุ้นให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองที่หลากหลาย จึงส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความพึงพอใจในการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก