การพัฒนาความสามารถในการอ่าน การเขียนสะกดคำของนักเรียน
ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการอ่าน การเขียนสะกดคำของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะมาตราตัวสะกด
ผู้วิจัย นางพิชญ์ฌากาญจน์ หิรัญเชาว์
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด
ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด
เพื่อเปรียบเทียบผลทางสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด และเพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 ปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม อำเภอศรีราชา สังกัดเทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 39 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบเป็นอิสระต่อกัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 88.89/87.95 หมายความว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบฝึกทักษะคิดเป็นร้อยละ 88.89 และคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 87.95 แสดงว่า
แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่า 0.74 แสดงว่า หลังการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นแล้วนักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 74
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
5. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีความคงทนในการเรียนรู้ หมายความว่า นักเรียนสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนแล้ว 15 วัน ได้คะแนนเฉลี่ย 34.05 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 85.13 แสดงว่านักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้เนื้อหาที่เรียนมาแล้วได้คงทน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะมาตราตัวสะกด
ผู้วิจัย นางพิชญ์ฌากาญจน์ หิรัญเชาว์
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด
ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด
เพื่อเปรียบเทียบผลทางสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด และเพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 ปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม อำเภอศรีราชา สังกัดเทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 39 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบเป็นอิสระต่อกัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 88.89/87.95 หมายความว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบฝึกทักษะคิดเป็นร้อยละ 88.89 และคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 87.95 แสดงว่า
แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่า 0.74 แสดงว่า หลังการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นแล้วนักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 74
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
5. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน การเขียน สะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีความคงทนในการเรียนรู้ หมายความว่า นักเรียนสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนแล้ว 15 วัน ได้คะแนนเฉลี่ย 34.05 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 85.13 แสดงว่านักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้เนื้อหาที่เรียนมาแล้วได้คงทน