การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
หัวข้อวิจัย การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวทัดรวี แจ้งหิรัญ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท เทศบาลเมืองพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ในพัฒนาการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 , ศึกษาค่าประสิทธิผลและศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน วิธีดำเนินการวิจัยเริ่มต้นจากการศึกษาการสร้างสร้างชุดกิจกรรม ด้วยการจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการสอนรูปแบบ MIAP ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นสนใจเรียน 2) ขั้นศึกษาข้อมูล 3) ขั้นพยายามฝึกหัดและ 4) ขั้นสำเร็จผลและศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทำวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 28 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้ความน่าจะเป็น (Nonprobability sampling) ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการสอนรูปแบบ MIAP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลของการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 81.10/80.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.75 หมายถึง นักเรียนมีความรู้และทักษะ เพิ่มขึ้น 0.75 หรือคิดเป็นร้อยละ 75 3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 (¯x=4.33) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.31 (S.D.=0.31)
ผู้วิจัย นางสาวทัดรวี แจ้งหิรัญ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท เทศบาลเมืองพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ในพัฒนาการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 , ศึกษาค่าประสิทธิผลและศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน วิธีดำเนินการวิจัยเริ่มต้นจากการศึกษาการสร้างสร้างชุดกิจกรรม ด้วยการจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการสอนรูปแบบ MIAP ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นสนใจเรียน 2) ขั้นศึกษาข้อมูล 3) ขั้นพยายามฝึกหัดและ 4) ขั้นสำเร็จผลและศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทำวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 28 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้ความน่าจะเป็น (Nonprobability sampling) ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการสอนรูปแบบ MIAP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลของการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 81.10/80.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.75 หมายถึง นักเรียนมีความรู้และทักษะ เพิ่มขึ้น 0.75 หรือคิดเป็นร้อยละ 75 3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 (¯x=4.33) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.31 (S.D.=0.31)