รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่องการเขียนโปรแกรมสมองกล.....
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกลฝังตัว
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)
ผู้รายงาน นายชัยพร กางถิ่น
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)
สำนักการศึกษาเมืองพัทยา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนโดยการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) 3) เพื่อศึกษาระดับทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัวกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2561จำนวน 26คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 1 ชุด3) แบบประเมินทักษะเขียนโปรแกรมและการทำโครงงานระบบสมองกลฝังตัว จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้การทดสอบ t–test dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) มีค่าประสิทธิภาพ81.38/82.15 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัวสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาระดับทักษะทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกล-ฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) พบว่า นักเรียนมีทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกลฝังตัว อยู่ในระดับดี
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกลฝังตัว
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)
ผู้รายงาน นายชัยพร กางถิ่น
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)
สำนักการศึกษาเมืองพัทยา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนโดยการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) 3) เพื่อศึกษาระดับทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัวกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2561จำนวน 26คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการสอน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 1 ชุด3) แบบประเมินทักษะเขียนโปรแกรมและการทำโครงงานระบบสมองกลฝังตัว จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้การทดสอบ t–test dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) มีค่าประสิทธิภาพ81.38/82.15 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล)พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัวสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาระดับทักษะทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกล-ฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) พบว่า นักเรียนมีทักษะการเขียนโปรแกรมและการสร้างโครงงานระบบสมองกลฝังตัว อยู่ในระดับดี
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมสมองกลฝังตัว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุxxxล) พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก