การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ
ชื่อผู้วิจัย นายอรรถพล การดี
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปีที่ดำเนินการ 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างและหาประสิทธิภาพของบทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เปรียบเทียบผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เปรียบเทียบความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการใช้บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ หลังจากเรียนจบไปแล้ว 3 เดือน นักเรียนมีผลการเรียนเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ (4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการสอนด้วยบทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ ในด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านบรรยากาศ และด้านประโยชน์ที่ได้รับในการจัดกิจกรรม ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวน 237 คน รวม 6 ห้องเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวน 42 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ จำนวน 8 เพลง ได้แก่ เพลงบทบาทผู้ผลิต เพลงบทบาทผู้บริโภค เพลงทรัพยากรยั่งยืน เพลงหน่วยเศรษฐกิจ เพลงภาษี เพลงสิทธิผู้บริโภค เพลงสิทธิผู้ใช้แรงงาน และเพลงรวมกลุ่มเศรษฐกิจ (2) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ (3) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ จำนวน 9 แผน เวลา 17 ชั่วโมง ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน จำนวน 40 ข้อ ซึ่งเป็นชุดเดียวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน และให้ทำแบบประเมินความคิดเห็นที่มีต่อการสอนด้วยบทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ หลังเรียนจบผ่านไปแล้ว 3 เดือน ก็ให้นักเรียนกลุ่มตัวย่างทำแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ อีกครั้ง วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t–test)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการหาประสิทธิภาพของบทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 87.17/ 88.83 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2) ผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) ความคงทนในการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ มีผลการเรียนรู้หลังเรียนจบไปแล้ว 3 เดือน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 79.70 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ นั่นคือ ร้อยละ 70
4) ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการสอนด้วยบทเพลงร่วมกับการแสดงบทบาทสมมติ เรื่องเศรษฐศาสตร์น่ารู้ โดยภาพรวมนักเรียนเห็นด้วยในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.30 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่านักเรียนเห็นด้วยมากเป็นอันดับ 1 คือด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รองลงมาคือด้านประโยชน์ที่ได้รับจากวิธีสอน และนักเรียนเห็นด้วยมากเป็นลำดับสุดท้าย คือด้านบรรยากาศการจัดกิจกรรมการเรียนรู้