การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ
ชื่อผู้วิจัย นางณัทศมน ชมภูวงค์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จากการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยได้ดำเนินการจัดทำ จำนวน 10 แผน รวมเวลา 10 ชั่วโมง โดยไม่รวมแผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ และวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน
2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา พ23102 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ จำนวน 10 ชุด
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสุขศึกษา เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
4) แบบสอบถามความ พึงพอใจที่มีต่อการจัดจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 24 ข้อ
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา
พ23102 เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 84.97/88.92 โดยพบว่า ประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1) เท่ากับ 84.97 และประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 88.92 ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 84.97/88.92 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด
2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา สุขศึกษา พ23102 เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7212 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 72.12
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา พ23102 เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา พ23102 เรื่องโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังการเรียนรู้ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.80 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.44