ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตน
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 3) เปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดห้วยพลู (โชติประชานุเคราะห์) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบล ห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยการจับฉลาก ได้กลุ่มตัวอย่าง 1 ห้องเรียน จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 ชุด ใช้เวลาจัดกิจกรรกมการเรียนรู้ 16 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบปรนัยแบบเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.50-0.75 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25-0.48 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 12 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.76 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x-bar) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ (%) และการทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ (E1/E2) เท่ากับ 80.24/80.23
2. ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.699301 นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 69.93
3. ทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก x-bar เท่ากับ 4.43)
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 3) เปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดห้วยพลู (โชติประชานุเคราะห์) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบล ห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยการจับฉลาก ได้กลุ่มตัวอย่าง 1 ห้องเรียน จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 ชุด ใช้เวลาจัดกิจกรรกมการเรียนรู้ 16 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบปรนัยแบบเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.50-0.75 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25-0.48 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 12 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.76 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x-bar) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ (%) และการทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ (E1/E2) เท่ากับ 80.24/80.23
2. ชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.699301 นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 69.93
3. ทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการอ่านเขียนสะกดคำยาก โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก x-bar เท่ากับ 4.43)