ผลการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน
ชื่อเรื่อง ผลการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา
ผู้วิจัย นางสาวกาญจนา ไสยโสภณ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 16 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) รูปแบบการวิจัยเป็นแบบก่อนทดลอง (Pre Experimental Designs) แบบ The One-Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 3 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา ชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 15 แผน 3) แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัย จำนวน 15 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.21/87.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมเกมการศึกษามีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผู้วิจัย นางสาวกาญจนา ไสยโสภณ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 16 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) รูปแบบการวิจัยเป็นแบบก่อนทดลอง (Pre Experimental Designs) แบบ The One-Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 3 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา ชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 15 แผน 3) แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัย จำนวน 15 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.21/87.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมเกมการศึกษามีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05