รายงานการนิเทศ
ชื่อรายงานการศึกษา รายงานการนิเทศผลการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่องการพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา
ผู้รายงาน นางสาวพัทธนันท์ สุดยอด
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานการนิเทศผลการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน ฉบับนี้ผู้รายงานมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนก่อนและหลังใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิด ด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา 3) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน ของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของครูผู้สอนที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา การศึกษาครั้งนี้กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษาที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดพะเยา ในเขตอำเภอเชียงคำ จำนวน 15 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 2561 ที่เรียนด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน จำนวน 281 คน ได้มา โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากโรงเรียนที่สมัครใจร่วมพัฒนา
ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลการพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิด ด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า คุณภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ในภาพรวมทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับดี โดยมีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.42 2) ผลการเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนก่อนและหลังการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะ การคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า ความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอนหลังการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงกว่าก่อนใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3) ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบโครงงานของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า 3.1) พฤติกรรมของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการวางแผน ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล โดยรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก 3.2) พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน พบว่า โดยภาพรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนที่แสดงออกด้านทักษะการคิดมากที่สุด คือ ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงจากกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบขณะทำกิจกรรมและพบว่าเมื่อพิจารณาพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายโรงเรียนก็พบว่า โดยภาพรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก โดยโรงเรียนที่ปฏิบัติได้ดีที่สุด คือ โรงเรียนเชียงคำคริสเตียน และเมื่อพิจารณารวมทั้ง 5 โรงเรียน แยกตามระดับชั้นพบว่าระดับชั้นที่ปฏิบัติได้ดีที่สุด คือ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านรูปเล่ม ด้านส่วนนำของเล่ม ด้านเนื้อหาและด้านการนำไปใช้ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
ผู้รายงาน นางสาวพัทธนันท์ สุดยอด
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานการนิเทศผลการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน ฉบับนี้ผู้รายงานมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนก่อนและหลังใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิด ด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา 3) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน ของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของครูผู้สอนที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา การศึกษาครั้งนี้กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษาที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดพะเยา ในเขตอำเภอเชียงคำ จำนวน 15 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 2561 ที่เรียนด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน จำนวน 281 คน ได้มา โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากโรงเรียนที่สมัครใจร่วมพัฒนา
ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลการพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิด ด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า คุณภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ในภาพรวมทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับดี โดยมีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.42 2) ผลการเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนก่อนและหลังการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะ การคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า ความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอนหลังการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองสูงกว่าก่อนใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3) ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบโครงงานของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า 3.1) พฤติกรรมของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการวางแผน ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล โดยรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก 3.2) พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน พบว่า โดยภาพรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนที่แสดงออกด้านทักษะการคิดมากที่สุด คือ ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงจากกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบขณะทำกิจกรรมและพบว่าเมื่อพิจารณาพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายโรงเรียนก็พบว่า โดยภาพรวมปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก โดยโรงเรียนที่ปฏิบัติได้ดีที่สุด คือ โรงเรียนเชียงคำคริสเตียน และเมื่อพิจารณารวมทั้ง 5 โรงเรียน แยกตามระดับชั้นพบว่าระดับชั้นที่ปฏิบัติได้ดีที่สุด คือ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา พบว่า ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านรูปเล่ม ด้านส่วนนำของเล่ม ด้านเนื้อหาและด้านการนำไปใช้ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก