การพัฒนาชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย พรชัย ตระxxxลโอสถ
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2560
การพัฒนาชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยมีความมุ่งหมายในการศึกษาวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังใช้ชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สังกัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวนทั้งหมด 112 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สังกัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวนทั้งหมด 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบศึกษาด้วยตนเอง เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบศึกษาด้วยตนเอง ประกอบชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสถิติ t ( t-test Dependent )
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.01/86.45 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ผู้วิจัยตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้ชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.63
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย พรชัย ตระxxxลโอสถ
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2560
การพัฒนาชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยมีความมุ่งหมายในการศึกษาวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังใช้ชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สังกัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวนทั้งหมด 112 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สังกัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวนทั้งหมด 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบศึกษาด้วยตนเอง เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบศึกษาด้วยตนเอง ประกอบชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสถิติ t ( t-test Dependent )
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมความรู้ เรื่อง เพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.01/86.45 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ผู้วิจัยตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้ชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดฝึกทักษะ เรื่องเพศศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.63