ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึก
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษา
ของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย : นางสาววริศรา ศรีจักร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีที่วิจัย : 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
เป็นเวลา 16 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง คือ The One – Group Pretest - Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 16 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก 40 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence : IOC) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t – test for Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 82.08/82.11 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7132 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 71.32
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) พบว่าโดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.46, S.D. = 0.72) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดหนึ่งด้าน คือ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 4.52, S.D.=0.69) และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากสามด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้
1) ด้านเนื้อหา ( = 4.45, S.D.= 0.66) 2) ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ ( = 4.44, S.D. = 0.75) และ 3) ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ ( = 4.42, S.D. = 0.76) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 6 ข้อ และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 14 ข้อ
ของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย : นางสาววริศรา ศรีจักร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีที่วิจัย : 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
เป็นเวลา 16 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง คือ The One – Group Pretest - Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 16 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก 40 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence : IOC) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t – test for Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 82.08/82.11 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7132 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 71.32
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง การเจริญเติบโตและเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) พบว่าโดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.46, S.D. = 0.72) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดหนึ่งด้าน คือ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 4.52, S.D.=0.69) และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากสามด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้
1) ด้านเนื้อหา ( = 4.45, S.D.= 0.66) 2) ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ ( = 4.44, S.D. = 0.75) และ 3) ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ ( = 4.42, S.D. = 0.76) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 6 ข้อ และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 14 ข้อ