การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ
ในการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เรวดี มูสิกะอุปถัมภ์
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร และ 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนที่กำลังเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มีประสิทธิภาพ 82.11/81.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (80/80)
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6553 หมายความว่า นักเรียนที่เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 65.53
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.32 , S.D. = 0.62)
คำสำคัญ : หนังสือกึ่งของเล่น เทคนิค STAD ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความพึงพอใจ
ครูชำการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) ตำบลบางนาค อำภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
ในการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เรวดี มูสิกะอุปถัมภ์
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร และ 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนที่กำลังเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มีประสิทธิภาพ 82.11/81.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (80/80)
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6553 หมายความว่า นักเรียนที่เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 65.53
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้หนังสือกึ่งของเล่นคณิตศาสตร์สามมิติร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.32 , S.D. = 0.62)
คำสำคัญ : หนังสือกึ่งของเล่น เทคนิค STAD ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความพึงพอใจ
ครูชำการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) ตำบลบางนาค อำภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส