การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก
ชื่องานวิจัย การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวนุชชลี มาหนองโดน
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร)
เทศบาลนครนครราชสีมา
ปี พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัย ได้ดำเนินการตามลักษณะกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 การทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง บุคคลสำคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทย ด้วยวิธีการ ทางประวัติศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดทุกชุด โดยชุดที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.00/73.30 ชุดที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 76.30/72.20 ชุดที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.50/73.30 ชุดที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 72.20/73.30 ชุดที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 71.10/72.20 และชุดที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 74.40/71.10
2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) นักเรียนมีผลการส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย โดยรวมอยู่ในระดับดี มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.43
4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
ผู้วิจัย นางสาวนุชชลี มาหนองโดน
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร)
เทศบาลนครนครราชสีมา
ปี พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แกะสลักผัก กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ด้วยวิธีการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัย ได้ดำเนินการตามลักษณะกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 การทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บูรพาวิทยากร) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง บุคคลสำคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทย ด้วยวิธีการ ทางประวัติศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดทุกชุด โดยชุดที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.00/73.30 ชุดที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 76.30/72.20 ชุดที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.50/73.30 ชุดที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 72.20/73.30 ชุดที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 71.10/72.20 และชุดที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 74.40/71.10
2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) นักเรียนมีผลการส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย โดยรวมอยู่ในระดับดี มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.43
4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด