รายงานการประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตร
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียน
ขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
พิษณุโลก เขต 3
ผู้ประเมิน : นายธิษณินนท์ อรรจนารณนินท์ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์
วิทยฐานะศึกษานิเทศก์ชำนาญการ
กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3
ปีที่ดำเนินงาน : 2560-2561
---------------------------------------------------------------------------------------
วัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการ
เพื่อประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ในด้านสภาพแวดล้อม (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process) และด้านผลผลิตของโครงการ (Product )
วิธีดำเนินการประเมินโครงการ
การประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ในปีการศึกษา 2561 จำนวน 71 แห่ง ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 71 คน 2) ครูผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 71 คน 3) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 71 คน 4) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 285 คน และ 5) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 285 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 783คน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียน
ขยายโอกาสทางการศึกษา มีจำนวน 5 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scales) 5 ระดับ จำนวน 4 ฉบับ และแบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลโครงการ จำนวน 1 ฉบับ
ผลการประเมินโครงการ
1.ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่างในการประเมินครั้งนี้เป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 9.07 ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 9.07 ครูผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 9.07 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 285 คน คิดเป็นร้อยละ 36.40 และผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 285 คน คิดเป็นร้อยละ 36.40 ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 476 คน คิดเป็นร้อยละ 60.79 และเป็นเพศชาย จำนวน 307 คน คิดเป็นร้อยละ 39.21
2.ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
3.ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4.ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process) ของโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
5.ผลการประเมินด้านผลผลิต (Product) ด้านความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียน
ขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
พิษณุโลก เขต 3
ผู้ประเมิน : นายธิษณินนท์ อรรจนารณนินท์ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์
วิทยฐานะศึกษานิเทศก์ชำนาญการ
กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3
ปีที่ดำเนินงาน : 2560-2561
---------------------------------------------------------------------------------------
วัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการ
เพื่อประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ในด้านสภาพแวดล้อม (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process) และด้านผลผลิตของโครงการ (Product )
วิธีดำเนินการประเมินโครงการ
การประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ในปีการศึกษา 2561 จำนวน 71 แห่ง ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 71 คน 2) ครูผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 71 คน 3) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 71 คน 4) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 285 คน และ 5) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 285 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 783คน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียน
ขยายโอกาสทางการศึกษา มีจำนวน 5 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scales) 5 ระดับ จำนวน 4 ฉบับ และแบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลโครงการ จำนวน 1 ฉบับ
ผลการประเมินโครงการ
1.ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่างในการประเมินครั้งนี้เป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 9.07 ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 9.07 ครูผู้รับผิดชอบโครงการ จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 9.07 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 285 คน คิดเป็นร้อยละ 36.40 และผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 285 คน คิดเป็นร้อยละ 36.40 ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 476 คน คิดเป็นร้อยละ 60.79 และเป็นเพศชาย จำนวน 307 คน คิดเป็นร้อยละ 39.21
2.ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
3.ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4.ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process) ของโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
5.ผลการประเมินด้านผลผลิต (Product) ด้านความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนาหลักสูตรการสอนพื้นฐานอาชีพในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่าผ่านเกณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก