ผลการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้แนวคิดการเต้นเชิงสร้างฯ
บทคัดย่อ เรื่องผลการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้แนวคิดการเต้นเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนเทศบาล ๕ (แก้วปัญญาอุปถัมภ์) จังหวัดพะเยา
ผู้เขียน นางรัชนีวรรณ มั่นคง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้แนวคิดการเต้นเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยใน 4 องค์ประกอบ ได้แก่ความคล่องในการคิด (Fluency) ความคิดริเริ่ม (Originality) ความคิดละเอียดลออ (Eaboration)และความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) เพื่อเปรียบเทียบความผลของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้แนวคิดการเต้นเชิงสร้างสรรค์กับผลการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะแบบปกติที่มีต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือเด็กปฐมวัย ที่ศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ปี การศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 5 (แก้วปัญญาอุปถัมภ์) สังกัดเทศบาลเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา จํานวน 34 คน เลือกแบบเฉพาะเจาะจง ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย คู่มือและแผนการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ และแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์โดยอาศัยการปฏิบัติและการเคลื่อนไหว สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และสถิติทดสอบที (T-Test)
ผลการวิจัย พบว่า
1.หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความคิดสร้างสรรค์ใน 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ความคล่องในการคิด ความคิดริเริ่ม ความคิดละเอียดลออและความคิดยืดหยุ่น สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความคิดสร้างสรรค์สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ผู้เขียน นางรัชนีวรรณ มั่นคง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้แนวคิดการเต้นเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยใน 4 องค์ประกอบ ได้แก่ความคล่องในการคิด (Fluency) ความคิดริเริ่ม (Originality) ความคิดละเอียดลออ (Eaboration)และความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) เพื่อเปรียบเทียบความผลของการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะโดยใช้แนวคิดการเต้นเชิงสร้างสรรค์กับผลการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะแบบปกติที่มีต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือเด็กปฐมวัย ที่ศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ปี การศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 5 (แก้วปัญญาอุปถัมภ์) สังกัดเทศบาลเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา จํานวน 34 คน เลือกแบบเฉพาะเจาะจง ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย คู่มือและแผนการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ และแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์โดยอาศัยการปฏิบัติและการเคลื่อนไหว สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และสถิติทดสอบที (T-Test)
ผลการวิจัย พบว่า
1.หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความคิดสร้างสรรค์ใน 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ความคล่องในการคิด ความคิดริเริ่ม ความคิดละเอียดลออและความคิดยืดหยุ่น สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความคิดสร้างสรรค์สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01