การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน
ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางธัญพัฒน์ เวชประสิทธิ์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 และเพื่อศึกษาความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กาลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ตาบลสะเตง อาเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครยะลา ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 จานวน 22 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 จานวน 22 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 จานวน 22 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4 จานวน 24 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 23 คน รวมทั้งสิ้น 113 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 23 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบวิเคราะห์ข้อมูล จานวน 1 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จานวน 1 ฉบับ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย จานวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 19 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จานวน 30 ข้อ แบบวัดความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จานวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จานวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า มีความจาเป็นที่ต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการสอนอ่าน
2. รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น มี 5 ขั้นตอน พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.36/84.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
ข
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ในภาพรวมมีระดับ ความพึงพอใจมาก
ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางธัญพัฒน์ เวชประสิทธิ์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 และเพื่อศึกษาความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กาลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) ตาบลสะเตง อาเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครยะลา ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 จานวน 22 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 จานวน 22 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 จานวน 22 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4 จานวน 24 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 23 คน รวมทั้งสิ้น 113 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 23 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบวิเคราะห์ข้อมูล จานวน 1 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ จานวน 1 ฉบับ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทย จานวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 19 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จานวน 30 ข้อ แบบวัดความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จานวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ จานวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า มีความจาเป็นที่ต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการสอนอ่าน
2. รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น มี 5 ขั้นตอน พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.36/84.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
ข
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ในภาพรวมมีระดับ ความพึงพอใจมาก