เผยแพร่ผลงานค่ะ
ชื่อ วิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ)
ผู้วิจัย นางรัตนาภรณ์ เอียดเหตุ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา
ปีการศึกษา ๒๕๖๑
...........................................................................................................................................................
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ และ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา ที่เรียนในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๒๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ ๑)แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๒)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๒ และ ๓) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย( ) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน (t–test Dependent) ผลการวิจัยพบว่า
๑. แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ ๘๖.๒๑/๙๐.๖๗ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (๘๐/๘๐)
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ โดยพบว่านักเรียนที่เรียนโดยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
๓. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด( = ๔.๘๕)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ)
ผู้วิจัย นางรัตนาภรณ์ เอียดเหตุ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา
ปีการศึกษา ๒๕๖๑
...........................................................................................................................................................
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ และ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา ที่เรียนในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๒๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ ๑)แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๒)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๒ และ ๓) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย( ) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน (t–test Dependent) ผลการวิจัยพบว่า
๑. แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ ๘๖.๒๑/๙๐.๖๗ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (๘๐/๘๐)
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ โดยพบว่านักเรียนที่เรียนโดยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
๓. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการอ่าน-เขียนคำ แม่กน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด( = ๔.๘๕)