การพัฒนาบทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ชื่องานวิจัย : การพัฒนาบทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint
ผู้วิจัย : นายยุทธพงษ์ อายุสุข
ปีการศึกษา : ๒๕๖๑
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) พัฒนาบทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่กำหนด ๒) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน และ๓) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๑๖๐ คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๔๐ คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ค่าความเที่ยงตรง ระหว่าง ๐.๘๐ ถึง ๑.๐๐ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าความเที่ยงตรง ระหว่าง ๐.๖๐ ถึง ๑.๐๐ มีค่าความยาก ระหว่าง ๐.๓๐ ถึง ๐.๖๐ มีค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง ๐.๒๐ ถึง ๐.๘๐ และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ ๐.๗๖ และแบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าความสอดคล้องระหว่าง ๐.๘๐ ถึง ๑.๐๐ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความเที่ยงตรง ความยาก อำนาจจำแนก ความเชื่อมั่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานและการทดสอบค่าที
ผลการวิจัย พบว่า
๑. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีค่าเท่ากับ ๘๑.๑๑/๘๘.๑๕
๒. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีค่า เท่ากับ ๐.๖๑๐๙
๓. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
ผู้วิจัย : นายยุทธพงษ์ อายุสุข
ปีการศึกษา : ๒๕๖๑
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) พัฒนาบทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่กำหนด ๒) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน และ๓) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๑๖๐ คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๔๐ คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ค่าความเที่ยงตรง ระหว่าง ๐.๘๐ ถึง ๑.๐๐ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าความเที่ยงตรง ระหว่าง ๐.๖๐ ถึง ๑.๐๐ มีค่าความยาก ระหว่าง ๐.๓๐ ถึง ๐.๖๐ มีค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง ๐.๒๐ ถึง ๐.๘๐ และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ ๐.๗๖ และแบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าความสอดคล้องระหว่าง ๐.๘๐ ถึง ๑.๐๐ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความเที่ยงตรง ความยาก อำนาจจำแนก ความเชื่อมั่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานและการทดสอบค่าที
ผลการวิจัย พบว่า
๑. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีค่าเท่ากับ ๘๑.๑๑/๘๘.๑๕
๒. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint บทเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีค่า เท่ากับ ๐.๖๑๐๙
๓. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก