การแก้โจทย์ปัญหาเรื่องการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยใช้เทคนิค K-W-D-L
ชื่อผลงานการวิจัย การพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่องการบวก ลบ
คูณ หาร ระคน โดยใช้เทคนิค K-W-D-L สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อ – สกุล นางสาวปิยะพร เสถียรเสาวภาคร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2561
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่องการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยใช้เทคนิค K-W-D-L สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้คือ (1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหา การบวก ลบ คูณ หารระคน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน (3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ จำนวน 33 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 12 แผน (2) แบบฝึกทักษะ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 เล่ม (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.29 – 0.71 ค่าอำนาจจำแนก (B) มีค่าตั้งแต่ 0.52 - 0.84 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 (4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 ข้อ และ (5) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สถิติทดสอบค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการ
บวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 เล่ม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.13/79.89
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเทคนิค K-W-D-L หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเทคนิค K-W-D-L หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( x-bar = 4.55, SD = 0.21)
คูณ หาร ระคน โดยใช้เทคนิค K-W-D-L สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อ – สกุล นางสาวปิยะพร เสถียรเสาวภาคร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2561
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา เรื่องการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยใช้เทคนิค K-W-D-L สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้คือ (1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหา การบวก ลบ คูณ หารระคน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน (3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ จำนวน 33 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 12 แผน (2) แบบฝึกทักษะ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 เล่ม (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.29 – 0.71 ค่าอำนาจจำแนก (B) มีค่าตั้งแต่ 0.52 - 0.84 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 (4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 ข้อ และ (5) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สถิติทดสอบค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้เทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการ
บวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 เล่ม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.13/79.89
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเทคนิค K-W-D-L หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเทคนิค K-W-D-L หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเทคนิค K-W-D-L เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( x-bar = 4.55, SD = 0.21)