ครบเครื่องเรื่องดนตรีกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะตามแนวคิดของซูซูกิ
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2561 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ซึ่งประกอบไปด้วยกระบวนการ 4 ขั้นตอน คือ 1) การวิจัย (Research) เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) การพัฒนา (Development) เป็นการสร้างและหาประสิทธิภาพของจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) การวิจัย (Research) เป็นการทดลองใช้การจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เป็นการพัฒนา (Development) เป็นการประเมินและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จานวน 34 คน แบบแผนในการวิจัย ใช้การทดลองแบบ Pre experimental Design กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จานวน 16 แผน 2) แบบทดสอบ จานวน 6 ชุด ดังนี้ 2.1) แบบทดสอบย่อยหลังวิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จานวน 5 ชุด ชุดละ 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้
ศิลปะ แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จานวน 1 ชุด 30 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน 3) แบบวัดทักษะการขับ
ร้อง เป็นแบบวัดทักษะการขับร้อง ที่สังเกตจากพฤติกรรม การขับร้องของนักเรียนเป็นแบบรูบริคแบบ
แยกส่วน (Analytic Rubric) และมีเกณฑ์การให้คะแนนแบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale)
ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยกาหนดเกณฑ์ในวัดทักษะการขับร้องเป็น 5 ด้าน คือ 3.1) เสียงร้อง 3.2) การ
หายใจ 3.3) เนื้อร้อง 3.4) ทานอง 3.5) จังหวะ 4) แบบวัดความสามารถในการทางานเป็นทีม
เป็นแบบวัดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จานวน 28 ข้อ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น โดย
กาหนดประเด็นการวัดเป็น 4 ด้าน คือ 4.1) ด้านบทบาทผู้นา 4.2) ด้านบทบาทสมาชิก 4.3) ด้าน
กระบวนการดาเนินงาน 4.4) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก 4.5) แบบสอบถามวัดความพึง
พอใจในการเรียน เป็นแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จานวน 1
ชุด 20 ข้อ การวิจัยครั้งนี้ มุ่งพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101
เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการศึกษาความคิดเห็นและข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แล้วนามาพัฒนาการจัดการ
เรียนรู้ เนื้อหาที่ใช้ในการพัฒนา จานวน 5 หน่วยการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1) หน่วยการเรียนรู้ที่
1 ดนตรีน่ารู้ 2) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรียนรู้เครื่องดนตรี 3) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องดีกับ
โน้ตเพลง 4) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เพลินเพลงเพลินใจ 5) หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ดนตรีไทยกับที่มา
ซึ่งในหน่วยการเรียนรู้ส่วนหน้าประกอบด้วย คานา วัตถุประสงค์ การออกแบบการเรียนรู้ คู่มือครู
บทบาทของครู แผนการจัดการเรียนรู้ ใบความรู้ แบบประเมินผลงานนักเรียน แบบทดสอบย่อย
ก่อน-หลังเรียน เฉลยแบบทดสอบย่อย เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ
(%) ค่าเฉลี่ย ( X ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent และ
การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) แล้วนาเสนอแบบพรรณนาความและตาราง
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2561 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ซึ่งประกอบไปด้วยกระบวนการ 4 ขั้นตอน คือ 1) การวิจัย (Research) เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) การพัฒนา (Development) เป็นการสร้างและหาประสิทธิภาพของจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) การวิจัย (Research) เป็นการทดลองใช้การจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เป็นการพัฒนา (Development) เป็นการประเมินและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จานวน 34 คน แบบแผนในการวิจัย ใช้การทดลองแบบ Pre experimental Design กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จานวน 16 แผน 2) แบบทดสอบ จานวน 6 ชุด ดังนี้ 2.1) แบบทดสอบย่อยหลังวิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จานวน 5 ชุด ชุดละ 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101 เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้
ศิลปะ แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จานวน 1 ชุด 30 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน 3) แบบวัดทักษะการขับ
ร้อง เป็นแบบวัดทักษะการขับร้อง ที่สังเกตจากพฤติกรรม การขับร้องของนักเรียนเป็นแบบรูบริคแบบ
แยกส่วน (Analytic Rubric) และมีเกณฑ์การให้คะแนนแบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale)
ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยกาหนดเกณฑ์ในวัดทักษะการขับร้องเป็น 5 ด้าน คือ 3.1) เสียงร้อง 3.2) การ
หายใจ 3.3) เนื้อร้อง 3.4) ทานอง 3.5) จังหวะ 4) แบบวัดความสามารถในการทางานเป็นทีม
เป็นแบบวัดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จานวน 28 ข้อ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น โดย
กาหนดประเด็นการวัดเป็น 4 ด้าน คือ 4.1) ด้านบทบาทผู้นา 4.2) ด้านบทบาทสมาชิก 4.3) ด้าน
กระบวนการดาเนินงาน 4.4) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก 4.5) แบบสอบถามวัดความพึง
พอใจในการเรียน เป็นแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จานวน 1
ชุด 20 ข้อ การวิจัยครั้งนี้ มุ่งพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี – นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ16101
เรื่อง ครบเครื่องเรื่องดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามแนวคิดของซูซูกิร่วมกับการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการขับร้องและความสามารถในการทางานเป็นทีม สาหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการศึกษาความคิดเห็นและข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แล้วนามาพัฒนาการจัดการ
เรียนรู้ เนื้อหาที่ใช้ในการพัฒนา จานวน 5 หน่วยการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1) หน่วยการเรียนรู้ที่
1 ดนตรีน่ารู้ 2) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรียนรู้เครื่องดนตรี 3) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องดีกับ
โน้ตเพลง 4) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เพลินเพลงเพลินใจ 5) หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ดนตรีไทยกับที่มา
ซึ่งในหน่วยการเรียนรู้ส่วนหน้าประกอบด้วย คานา วัตถุประสงค์ การออกแบบการเรียนรู้ คู่มือครู
บทบาทของครู แผนการจัดการเรียนรู้ ใบความรู้ แบบประเมินผลงานนักเรียน แบบทดสอบย่อย
ก่อน-หลังเรียน เฉลยแบบทดสอบย่อย เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ
(%) ค่าเฉลี่ย ( X ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent และ
การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) แล้วนาเสนอแบบพรรณนาความและตาราง