รายงานการใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เรื่องที่วิจัย การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอน
แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
ผู้วิจัย นางสาวรัศมี ปิยะพรหมศิริ
หน่วยงาน โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมุ่งศึกษาและพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา สังกัดสำนักการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กลุ่มตัวอย่างใช้การเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เนื่องจากโรงเรียนจัดชั้นเรียนแบบคละผลสัมฤทธิ์ ใช้แบบแผนการวิจัยแบบทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The Single Group, Pre-test Post-test Design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา จำนวน 6 เล่ม ประกอบด้วย เล่มที่ 1 หลักการอ่านคิดวิเคราะห์ เล่มที่ 2 สืบเสาะวิเคราะห์ข่าว เล่มที่ 3 เรื่องราวบทความดี เล่มที่ 4 อินเทอร์เน็ตมากมีให้สืบค้น เล่มที่ 5 พินิจยลพระบรมราโชวาท และเล่มที่ 6 เรียนรู้ศาสตร์สารคดี แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น จำนวน 12 แผน แบบวัดการอ่านคิดวิเคราะห์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 1 ฉบับ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ 1 ฉบับ จำนวน 15 ข้อ สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependents Sample) ที่ระดับ .01
สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.20/86.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 5.87 คิดเป็นร้อยละ 29.35
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75, S.D. = 0.43)
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอน
แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
ผู้วิจัย นางสาวรัศมี ปิยะพรหมศิริ
หน่วยงาน โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมุ่งศึกษาและพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา สังกัดสำนักการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กลุ่มตัวอย่างใช้การเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เนื่องจากโรงเรียนจัดชั้นเรียนแบบคละผลสัมฤทธิ์ ใช้แบบแผนการวิจัยแบบทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The Single Group, Pre-test Post-test Design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา จำนวน 6 เล่ม ประกอบด้วย เล่มที่ 1 หลักการอ่านคิดวิเคราะห์ เล่มที่ 2 สืบเสาะวิเคราะห์ข่าว เล่มที่ 3 เรื่องราวบทความดี เล่มที่ 4 อินเทอร์เน็ตมากมีให้สืบค้น เล่มที่ 5 พินิจยลพระบรมราโชวาท และเล่มที่ 6 เรียนรู้ศาสตร์สารคดี แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น จำนวน 12 แผน แบบวัดการอ่านคิดวิเคราะห์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 1 ฉบับ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ 1 ฉบับ จำนวน 15 ข้อ สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependents Sample) ที่ระดับ .01
สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.20/86.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 5.87 คิดเป็นร้อยละ 29.35
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน ชุด อ่านสนุก ปลูกปัญญา ร่วมกับวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75, S.D. = 0.43)