การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายถิรธนา คำแพง
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น (Pre-Experimental Design) แบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว วัดผลก่อนแหละหลังการทดลอง (The single Group Pretest-Posttest Design) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนปรางค์xxx่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 เล่ม จัดการเรียนการสอนจำนวน 14 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบเลือกตอบ (Multiple choice) 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ซึ่งมีค่ามีความยาก (p) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.80 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.75 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.84 และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ จากการจัดกิจกรรมโดยใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 14 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) และสถิติทดสอบที (t-test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระกัน
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. การพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 81.84/80.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่ามีค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.76
ผู้วิจัย นายถิรธนา คำแพง
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น (Pre-Experimental Design) แบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว วัดผลก่อนแหละหลังการทดลอง (The single Group Pretest-Posttest Design) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนปรางค์xxx่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 เล่ม จัดการเรียนการสอนจำนวน 14 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบเลือกตอบ (Multiple choice) 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ซึ่งมีค่ามีความยาก (p) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.80 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.75 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.84 และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ จากการจัดกิจกรรมโดยใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 14 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) และสถิติทดสอบที (t-test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระกัน
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. การพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 81.84/80.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่ามีค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.76